คปภ.เร่งดึงรถ 15 ล.คันเข้าประกันภัย พ.ร.บ.
เผยตัวเลขรถจดทะเบียนกว่า 40 ล้านคัน แต่ทำประกันภัย พ.ร.บ. แค่ 25.51 ล้านคัน หรือ 60.05% ด้าน คปภ.เร่งดึงส่วนที่เหลือเข้าระบบประกันภัย จัดรณรงค์ให้ความรู้ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ พ.ร.บ.” ปลุกจิตสำนึกเจ้าของรถ ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม เผยหากละเลยผิดกฎหมาย แถมต้องรับใช้ค่าสินไหมกรณีเกิดอุบัติเหตุ
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ พ.ร.บ.” ด้วยการปล่อยขบวนคาราวานรถมอเตอร์ไซค์ “ขับขี่อุ่นใจ” กว่า 100 คัน พร้อมจัดเสวนาให้ความรู้ โดยมีผู้แทนสำนักงาน คปภ. ภาค/จังหวัด อาสาสมัครประกันภัย และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพา เข้าร่วมงานรวมกว่า 300 คน ณ บริเวณโรงแรมเทาทอง ม.บูรพา โดยมี ผศ.ดร ศักดิ์ชัย เศรษฐ์อนวัช รองอธิการบดีฯ ให้เกียรติกล่าวต้อนรับและร่วมงานฯ เมื่อช่วงสายวันนี้ (24 ธ.ค.62)

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง “กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย” ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงาน คปภ. จึงได้จัดกิจกรรมขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัย พ.ร.บ. ทั้งนี้ จากสถิติรถยนต์จดทะเบียนทั่วประเทศสะสม ณ วันที่ 30 พ.ย.2562 มีจำนวนรถที่จดทะเบียนสะสมกว่า 40.64 ล้านคัน ขณะที่รถที่มีประกันภัย พ.ร.บ. มีเพียง 25.51 ล้านคัน หรือประมาณ 60.05% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ายังมีเจ้าของรถอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของการมีประกันภัยรถภาคบังคับ ซึ่งการไม่จัดทำประกันภัย พ.ร.บ. นั้นเจ้าของรถมีความผิดตามกฎหมาย และถูกปรับไม่เกิน 10,000 บาท
นอกจากนี้ หากรถคันดังกล่าวไปก่อเหตุ เจ้าของรถจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย เป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับกรณีบาดเจ็บ หรือหากเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ จะต้องรับผิดชอบค่าปลงศพหรือค่าทดแทน 35,000 บาท แต่หากปฏิเสธการจ่าย แม้กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจะเข้ามาจ่าย แต่จะต้องถูกเรียกคืนในภายหลัง พร้อมเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 และอาจถูกฟ้องทางแพ่งเพิ่มเติมได้ หากผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายหรือความสูญเสียเกินกว่านั้น
ในทางกลับกัน หากมีการทำประกันภัย พ.ร.บ. บริษัทจะเข้ามารับผิดชอบแทน โดยการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงให้แก่ผู้ประสบภัยสูงสุด 80,000 บาท กรณีบาดเจ็บ หรือหากเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน จำนวนสูงสุด 300,000 บาท ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การไม่จัดทำประกันภัยจะส่งผลกระทบหรือสร้างภาระทางการเงินให้แก่เจ้าของรถที่ไม่จัดทำประกันภัยอย่างมาก ในทางกลับกันประกันภัย พรบ. จะช่วยเหลือและบรรเทาภาระทางการเงินให้เจ้าของรถเป็นอย่างมาก
“กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. สามารถนำระบบประกันภัยไปใช้บริหารความเสี่ยงของตนเอง ได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งเข้าใจถึงบทบาท และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย” เลขาธิการ ระบุ.