เอ็ตด้าเผยเจน Y ใช้เน็ตมือถือมากที่สุด
ETDA (เอ็ตด้า) เผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ปี 2559 ยุค 4 จีทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไฮไลต์นักท่องเน็ตผ่านมือถือโต 9%
จากช่วงเวลาที่ใช้มากที่สุด 4 โมง ถึง 8 โมงเช้า เพศที่ 3 และเจน Y ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือสูงสุด
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เปิดเผยว่า การนำเสนอผลการสำรวจในปีนี้ เรานำพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมาจำแนกเป็นรายเจนเนอเรชัน ทั้งบนสมาร์ทโฟน แทบเล็ต และบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก เพื่อให้เข้าใจง่าย ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่อาศัยในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และมีการกระจายตัวของเพศ อายุ การศึกษา สถานภาพการทำงาน และรายได้ที่สอดคล้องกับโครงสร้างประชากร สามารถนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ อินเทอร์เน็ตเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มได้ ได้แก่ เจน Z, เจนY, เจน X และ Baby Boomer
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าจำนวนชั่วโมงการใช้อินเทอร์เน็ตในภาพรวมทั้งผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และคอมพิวเตอร์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 45.0 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็นระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ย 6.4 ชั่วโมงต่อวัน โดยเพศที่สาม และ เจน Y เป็นกลุ่มที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยสูงที่สุด อยู่ที่ 48.9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และ 53.2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตามลำดับ
สมาร์ทโฟนยังคงเป็นอุปกรณ์หลักที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมีจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 85.5% และมีจำนวนชั่วโมงการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6.2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งทั้งจำนวนผู้ใช้งานและจำนวนชั่วโมงการใช้งานของปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2558 มีจำนวนผู้ใช้งาน 82.1% และมีจำนวนชั่วโมงการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.7 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
ช่วงเวลาเรียน/ทำงาน (08.01 – 16.00 น.) คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นอุปกรณ์อันดับ 1 ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยช่วงเวลา 08.01–12.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนนิยมใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากที่สุด คิดเป็น 64.5% ขณะที่ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน/ทำงานจนถึงเช้า (16.01 – 08.00 น.) สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์อันดับ 1 ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนนิยมใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากที่สุด คิดเป็น 68.4%
สำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ คิดเป็น 29.3% ใช้อินเทอร์เน็ตระหว่างการเดินทางในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่พักอาศัยในต่างจังหวัด ซึ่งมีเพียง 10.3% เท่านั้น ด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตของคนกรุงเทพฯ ที่ดีและพร้อมกว่าต่างจังหวัด และตลอดจนคนกรุงเทพฯ ประสบปัญหาสภาพการจราจร ที่แออัดหนาแน่นกว่าต่างจังหวัด ทำให้คนกรุงเทพฯนิยมที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาเล่น/ใช้งานในระหว่างรถติด
กิจกรรมยอดนิยม 5 อันดับแรกที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมทำผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ได้แก่ การพูดคุยผ่าน Social Network ( 86.8%) รองลงมา เป็นการดูวิดีโอผ่าน YouTube (66.6%), การอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (55.7%), การค้นหาข้อมูล (54.7%) และการทำธุรกรรมทางการเงิน (45.9%) ตามลำดับ
ในส่วนของสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม 3 อันดับ พบว่า อันดับแรก ได้แก่ YouTube มีผู้ใช้งานมากถึง 97.3% รองลงมา คือ Facebook และ Line มีผู้ใช้งานคิดเป็น 94.8% และ 94.6% ตามลำดับ
โดยกลุ่มที่ใช้งาน YouTube มากที่สุดได้แก่ เจน Y และ เจน Z คิดเป็น 98.8% และ 98.6% ตามลำดับ ขณะที่ 2 กลุ่มนี้ใช้ Facebook คิดเป็น97.9% และ 93.8% ตามลำดับ เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 คือ Line คิดเป็น 97.2% และ 91.4% ตามลำดับ
ในขณะที่ Line เป็นแอปพลิเคชันที่กลุ่ม Baby Boomer และ เจน X นิยมใช้ติดต่อสื่อสารมากที่สุด คิดเป็น 91.5% และ 96.2% ตามลำดับ รองลงมา คือ YouTube คิดเป็น 89.3% และ 95.3% ตามลำดับ ส่วนอันดับ 3 คือ Facebook คิดเป็น 86.5% และ 93.9% ตามลำดับ
เมื่อทำการสำรวจด้านความถี่ในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์แต่ละประเภท พบว่า Facebook ยังคงเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการใช้งานบ่อยที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมา เป็น Line และ YouTube โดยมีสัดส่วนของผู้ใช้งาน คิดเป็น 84.2%, 82.0% และ 76.9๔ ตามลำดับ
ในด้านปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ต จากผลการสำรวจ พบว่า ปัญหาอันดับแรก ได้แก่ ความล่าช้าในการเชื่อมต่อ/ใช้อินเทอร์เน็ต (70.3%)รองลงมา เป็นเรื่องของปริมาณโฆษณาที่มารบกวน (50.7%), การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยาก/หลุดบ่อย (32.7%), เสียค่าใช้จ่ายแพง (26.8%) และการให้บริการอินเทอร์เน็ตยังไม่ทั่วถึง (21.2%) ตามลำดับ
ในความคิดเห็นของผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านระบบ 3G/4G ปัญหาสำคัญที่สุด 3 อันดับแรกที่เกิดจากการใช้งานระบบ 3G/4G อันดับแรก เป็นเรื่องของความสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ ต้องหมั่นคอยชาร์จ รองลงมา เป็นเรื่องของการใช้งาน 4G ในบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณ หรือสัญญาณอ่อน และค่าใช้จ่ายในการใช้งานค่อนข้างสูง คิดเป็นร้อยละ 70.4%, 64.7% และ 40.2% ตามลำดับ
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งผ่านสมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์พอจะสรุปได้ว่าคนส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบการสื่อสารจากการแชตในสังคม ออนไลน์มากที่สุด ขณะที่การชมยูทูบเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของความบันเทิงที่เป็นที่นิยม สำหรับการอ่านอีบุ๊กคนไทยยังคงให้ความสำคัญเป็นอันดับ 3 ทั้งหมดช่วยให้การประเมินต่อยอดกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งภาครัฐเอง เอกชน และคนทั่วไปง่ายขึ้นในการเข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงเป็นกำลังใจให้วงการดิจิทัลคอนเท็นต์ในการที่สร้างสรรค์งานเขียน และสื่อสร้างสรรค์ออนไลน์ดี ๆ ต่อไป.