กรมศุลฯ จ่อยึดรถพันคัน
กรมศุลฯ ลงมือสางปัญหารถยนต์ใหม่ตกค้างในเขตปลอดอากรกว่า 1,000 คัน
อธิบดี “กบ” (กุลิศ) รอนโยบายจากนายกรัฐมนตรี เพราะไทยไม่ใช่ที่ทิ้งขยะอุตสาหกรรม “กรมศุลฯ จะเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหารถตกค้างจำนวน 1,000 คันในเขตฟรีโซนให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาเพื่อสั่งการในระดับนโยบาย” นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า มีรถยนต์ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือถึง 1,000 คัน ซึ่งขณะนี้ กำลังพิจารณาว่าจะจัดการกับเรื่องดังกล่าวได้อย่างไร อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานกว่า 4 ปีแล้ว และในการหารือภายในกรมฯ และกระทรวงการคลัง ก็มีแนวทางที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา 3 แนวทางเลือก ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะถึงขั้นยึดรถทั้งหมดมาเป็นของหลวง ซึ่งแน่นอนว่า กรมฯ คงไม่สามารถลดภาษีลงมาได้และประเทศไทยไม่ที่ทิ้งขยะอุตสาหกรรมแต่ทั้งหมดนี้จะมีทางออกไปในทิศทางการใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจระดับนโยบาย เพราะมีประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณา เนื่องจากรถยนต์เป็นรถยนต์ตกค้างมานาน 3-4 ปี
นายจำเริญ โพธิยอด ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษีกรมศุลกากร กล่าวว่า ปัจจุบันมีจำนวนรถยนต์ตกค้างในคลังสินค้าทัณฑ์บนและเขตปลอดอากรของกรมศุลกากรรวม 70 แห่งทั่วประเทศ 1,140 คัน จากจำนวนผู้นำเข้ากว่า 50 ราย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีการนำเข้ามาตั้งแต่ปี 2552 แต่ผู้ประกอบการยังไม่ได้นำออกไปจำหน่าย เนื่องจากอ้างว่ามีภาระภาษีที่แพง ทำให้ปริมาณรถยนต์ในเขตดังกล่าวทยอยเพิ่มเรื่อยๆ
“รถพวกนี้เป็นรถเพื่อการพาณิชย์บางส่วนเป็นรถราคาถูก บางส่วนเป็นรถยนต์หรูนำเข้ามาเก็บในเขตปลอดอากรและคลังสินค้าทัณฑ์กว่า 70 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรอจำหน่าย แต่ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี จำหน่ายไม่ได้ทำให้รถยนต์ตกค้างมีมากขึ้น ก็มีปัญหาว่า กรมทำไมไม่ปล่อยของออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไม่มีเงินมาเสียภาษีเอง ทำให้ปริมาณมากขึ้นหลายๆ คน ก็เรียกร้องให้ลดภาษี เพราะมีอัตราสูงถึง 328% ของราคาซื้อขายที่แท้จริง”
ทั้งนี้ เขตปลอดอากรและคลังสินค้าทัณฑ์บนนั้น เปรียบเสมือนดินแดนต่างประเทศของภาคภาษีอากร เมื่อมีสินค้าเข้ามาผู้ประกอบการจะยังไม่เสียภาษี แต่จะเสียภาษีต่อเมื่อผู้ประกอบการนำสินค้าออกไปโดยกรมไม่ได้กำหนดระยะเวลาการเก็บสินค้า รวมถึงไม่ได้กำหนดปริมาณสินค้าแต่ผู้ประกอบการจะต้องเสียค่าเช่าในการเก็บรักษาสินค้าต่อเจ้าของคลังสินค้าทัณฑ์บนและเขตปลอดอากรคันละ 50,000-60,000 บาทต่อเดือน.
