ไทยหยุดเอชไอวีจากแม่สู่ลูกสำเร็จ
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. องค์การอนามัยโลกประกาศว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่สามารถกำจัดการแพร่เชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้ นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่หลังการต่อสู้กับโรคนี้มายาวนาน
การประกาศนี้เป็นการเชิดชูศักยภาพของบุคลากรในวงการสาธารณสุขของไทยที่สามารถพลิกโฉมหน้าจากประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีสูงเป็นลำดับต้นๆ ของเอเชียให้กลายเป็นประเทศตัวอย่างในการรับมือและแก้ไขวิกฤตนี้ได้
โดยองค์การอนามัยโลกกล่าวยกย่องว่า เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งที่ไทยสามารถสาธิตให้โลกเห็นว่า การเอาชนะโรคนี้ทำได้อย่างไร
นอกจากไทยแล้ว คิวบาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถหยุดการแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้เช่นกัน ภายใต้มาตรฐานข้อบังคับขององค์การอนามัยโลก
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกรายงานว่า การตรวจคัดกรองเป็นประจำและการให้ยาต้านไวรัสฟรีแก่ผู้ติดเชื้อที่ตั้งครรภ์เป็นสาเหตุสำคัญที่สามารถหยุดการแพร่เชื้อจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่งได้
หากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่ได้รับการรักษาใดๆ จะมีโอกาสแพร่เชื้อสู่ทารกได้สูงถึง 15-45%ทั้งในช่วงขณะตั้งครรภ์ ระหว่างการคลอด หรือแม้แต่ในช่วงที่ให้ทารกดื่มนมแม่
การได้รับยาต่้านไวรัสเป็นประจำขณะตั้งครรภ์สามารถลดโอกาสในการแพร่เชื้อลงเหลือเพียง 1% เท่านั้น โดยในปี 2543 ไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของโลกที่ให้บริการยาต้านไวรัสฟรีแก่หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี
อ้างอิงจากตัวเลขของรัฐบาลไทย จำนวนทารกที่ติดเชื้อเอชไอวีจากแม่ลดลงจาก 1,000 คนในปี 2543 เหลือเพียง 85 คนในปี 2558 ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงมากจนองค์การอนามัยโลกต้องประกาศว่า การแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้จบสิ้นลงแล้ว
วงการสาธารณสุขของไทยต้องต่อสู้มาอย่างยาวนานเพื่อผลักดันให้รัฐบาลมีมาตรการที่เหมาะสมในการรับมือกับปัญหาการติดเชื้อเอชไอวีที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างวดเร็ว
โดยการแจกจ่ายถุงยางอนามัยฟรีให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพให้บริการทางเพศในช่วงปี 2540 และ การให้บริการยาต้านไวรัสฟรีแก่ผู้ติดเชื้อตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมาส่งผลให้เกิดความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน
นายมิเชล ซิดิเบ ผู้อำนวยการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติกล่าวว่า “กระบวนการแก้ปัญหาของประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวิทยาศาสตร์และการแพทย์ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างมีเสถียรภาพ ”
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีงานหนักให้ทำอีกมาก เนื่องจากองค์การสหประชาชาติประเมินว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีประมาณ 500,000 คนในประเทศไทย โดยอัตราการติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นเล็กน้อยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มรักร่วมเพศ.