รายใหญ่ปรับกลยุทธ์บุกตลาดแนวราบ10ลบ.ขึ้น
พลัสฯ เผยแรกรายใหญ่หันมาบุกตลาดแนวราบ พบกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท และ 5-7 ล้านบาท ยังคงเป็นตลาดหลัก แต่กลุ่มราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปมีการเติบโตมากขึ้น เหตุเป็นตลาดของกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ที่ต้องการอยู่อาศัยจริงและไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ
นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนาในปี 2562 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หันมาพัฒนาโครงการที่เป็นบ้านเดี่ยวมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดบ้านเดี่ยวช่วงครึ่งปีแรก 2562 มีการเติบโตดีขึ้นทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทานเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนๆ แต่ชะลอตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีหลัง 2561 เนื่องจากการเร่งระบายสินค้าก่อนที่นโยบาย LTV จะบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยในรอบสำรวจนี้มีอุปทานเสนอขายรวมเพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากโครงการเปิดใหม่และโครงการเก่าที่เปิดจำนวนยูนิตขายเพิ่มขึ้น มีจำนวนทั้งสิ้น 16,369 ยูนิต ในขณะที่อุปสงค์รวมเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 6,198 ยูนิต หรือมีอัตราการขายเท่ากับ 38%
กลุ่มราคาที่เติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 ได้แก่ บ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์มาพัฒนาโครงการที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบน เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ระดับราคาดังกล่าวมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกันระดับราคาอื่นๆ ในตลาดบ้านเดี่ยว
ภาพรวมของบ้านเดี่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 มีอุปทานรวม 16,369 ยูนิต แบ่งเป็น ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวนสูงสุดถึง 35% (5,671 ยูนิต) รองลงมาคือ 5-7 ล้านบาท จำนวน 31% (5,065 ยูนิต) ระดับราคา 7-10 ล้านบาท มี 15% (2,515 ยูนิต) ราคา 10-20 ล้านบาท จำนวน 10% (1,709 ยูนิต)
ขณะเดียวกัน อุปสงค์รวมของครึ่งปีแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 6,198 ยูนิต หรือคิดเป็นยอดขาย 38% จำนวนอุปสงค์ดังกล่าวเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 16% จากช่วงครึ่งหลังปี 2561 เนื่องจากการมีการเร่งระบายสินค้า ก่อนจะเริ่มใช้นโยบายสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ในต้นปี 2562 ซึ่งส่งผลให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในรอบสำรวจนี้ จำนวนอุปสงค์ปรับเพิ่มขึ้นในทุกระดับราคาเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ระดับราคาที่ได้รับการตอบรับหรือมีดีมานด์ที่เพิ่มมากขึ้นอันดับต้นๆได้แก่ บ้านเดี่ยวในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีอุปสงค์เพิ่มขึ้นราว 40% มาอยู่ที่ 1,158 ยูนิต
ส่วนระดับราคาที่เป็นตลาดหลัก ได้แก่ 3-5 ล้านบาท และ 5-7 ล้านบาท มีจำนวนอุปสงค์เพิ่มขึ้น 4% และ 22% มาอยู่ที่ 2,418 ยูนิต และ 1,733 ยูนิต ตามลำดับ ในขณะที่ราคา 7-10 ล้านบาท มีอุปสงค์เพิ่มขึ้น 2% มาอยู่ที่ 848 ยูนิต และในรอบสำรวจนี้พบว่า บ้านเดี่ยวในระดับราคา 5-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาหลักในตลาดบ้านเดี่ยวตลอดจนมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง มีอุปสงค์เพิ่มขึ้นส่วนมากในโซนตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณคลองสามวา และลาดกระบัง รวมถึงโซนทิศตะวันตกจะอยู่ในบริเวณบางใหญ่ และพุทธมณฑล เนื่องจากเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้.