ธอส.จ่อขายสลากฯ 10 ล. เคลือบทอง ตุลาฯนี้
ธอส.จ่อคลอดสลากออมทรัพย์ฯชุด 2 หน่วยละ 10 ล้านบาท รวม 3 หมื่นล้านบาท ช่วง ต.ค.นี้ เผยอัพเกรดโดย นำทองคำแท้เคลือบบนสลากฯ หวังเจาะตลาดกลุ่มกองทุนฯ นิติบุคคล และบรรดามหาเศรษฐีเมืองไทย ที่กำรายชื่อในมือถึง 2,000 ราย พร้อมอัดลุ้นรางวัลฯ 9 ล้านบาทต่อสัปดาห์ ล่อใจทดแทนดอกเบี้ยที่ตีต่ำแค่ 1.1-1.25%
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวภายหลังการจัดกิจกรรมงานบุญในโอกาสครบรอบปีที่ 66 ของการสถาปนา ธอส. เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ถึงแผนการระดมเงินจากการออกสลากออมทรัพย์ ธอส. ว่า หลังจากที่ได้ออกสลากฯชุดวิมานเมฆ มูลค่า 1 ล้านบาท รวม 27,000 หน่วย คิดเป็นเงิน 27,000 ล้านบาท กระทั่ง ได้ครบเต็มจำนวน โดยมีส่วนเกินที่จัดเก็บไว้เป็นบัญชีรายชื่อสำรองอีก 19,384 หน่วย หรือ 19,384 ล้านบาท โดยจะทำการเปิดรอบ 2 ในส่วนของสลากฯชุดวิมานเมฆชุดที่ 1 ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ต.ค.62 ธอส.วางแผนจะออกสลากออมทรัพย์ ธอส.ชุดที่ 2 ราคาใบละ 10 ล้านบาท จำนวน 3,000 ใบ คิดเป็นวงเงิน 30,000 ล้านบาท ซึ่ง ธอส.มีรายชื่อลูกค้ามุ่งหวังในกลุ่มนี้แล้ว ประมาณ 2,000 รายชื่อ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ากลุ่มนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา รวมถึงกองทุนต่างๆ โดยจะทำการเชิญชวนซื้อด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ สลากออมทรัพย์ฯชุดที่ 2 จะมีอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.1-1.25% โดยจูงใจผู้ซื้อด้วยการจัดชิงโชครางวัลทุกไตรมาสๆ ละ 3 รางวัลๆ ละ 3 ล้านบาท รวมเงินรางวัล 9 ล้านบาทต่อไตรมาส หรือ 36 ล้านบาทต่อปี และเพื่อให้สมกับคุณค่าของสลากออมทรัพย์ใบละ 10 ล้านบาท จึงได้นำทองคำแท้ มาอาบหรือเคลือบบนสลากฉบับดังกล่าว นอกจากนี้ ธอส.ยังมีแผนจะออกสลากออมทรัพย์ฯชุดที่ 3 กำหนดราคาต่อหน่วยที่ 50,000 บาท คาดว่าจะเปิดให้ประชาชนสามารถเข้ามาจองซื้อได้ในไตรมาส 1ของปี 63
นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึงการปล่อยสินเชื่อนับแต่ช่วงต้นปีจนถึงวัน 20 ก.ย.นี้ ว่า ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 139,000 ล้านบาท คิดเป็น 66.42% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 203,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นที่น่ายินดี เมื่อพบว่า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อแต่ละเดือนได้ปรับสูงขึ้น ล่าสุด ณ วันที่ 20 ก.ย.นี้ ได้ปล่อยสินเชื่อแล้ว 10,000 ล้านบาท คาดว่าตลอดทั้งเดือน ก.ย.นี้ จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ถึง 22,000- 25,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการออกแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ชื่อเดียวกับสลากออมทรัพย์ชุดที่1 คือ “สินเชื่อวิมานเมฆ” กำหนดอัตราดอกเบี้ย 3 ปี ที่ 2.77 % โดยมีเป้าหมายสินเชื่อในส่วนนี้ 27,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดเดียวกับที่ได้ระดมเงินผ่านสลากออมทรัพย์ฯชุดดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น ส่วนตัวเชื่อว่า ธอส.คงไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอีก แม้ช่วงปลายปีนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาก็ตาม เนื่องจากจะต้องทำการปิดบัญชี ดังนั้น หากปลายปีเฟด และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยลงมา ก็คงไม่กดดันให้ ธอส.ต้องปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ตามกันไป อย่างไรก็ตาม หากจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในส่วนนี้ ก็น่าจะเป็นไปในช่วงปี 63
ด้านมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน (LTV ) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น กก.ผจก. ธอส. กล่าวว่า หลังจากเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จะเห็นว่าผู้ประกอบการและสถาบันการเงินเริ่มปรับตัวได้แล้ว โดยในส่วนของ ธอส. หากเป็นกลุ่มลูกค้าเงินกู้ที่ไม่มีเงินออม หรือกลุ่มลูกค้ารายย่อย ได้มีการปล่อยสินเชื่อออกไปแล้ว 10,000 ล้านบาท โดย ธอส.จะลดอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ลงอีก 0.1 % ในทุกๆ 10,000 ล้านบาท ที่ปล่อยกู้ให้คนกลุ่มนี้ เพื่อสนับสนุนให้คนรายได้น้อย ได้มีมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตามนโยบายของรัฐบาล
ทั้งนี้ ในส่วนแคมเปญสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ย 0 % นั้น ธอส.ไม่มีมานานแล้ว เนื่องจากเห็นแคมเปญดังกล่าวาเป็นเสมือนการฆ่าคนกู้ เนื่องจากหลังหมดอัตราดอกเบี้ย 0% แล้ว อัตราค่าส่งสินเชื่อในแต่ละงวดจะปรับเพิ่มขึ้นสูงทันที ทำให้กลายเป็นภาระของผู้กู้และอาจนำไปสู่การไร้ความสามารถในการผ่อนส่ง กระทั่ง อาจถูกยึดบ้านตามมาได้ ส่วนโครงการบ้าน 1 ล้าน หลังตามนโยบายของรัฐบาล ที่เริ่มต้นเมื่อปลายปีที่แล้ว พบว่า จนถึงปัจจุบันมีผู้ยื่นกู้แล้ว 16,200 ราย วงเงิน 11,800 ล้านบาท และได้อนุมัติเงินกู้ไปแล้ว 15,290 ราย คิดเป็นวงเงิน 10, 860 ล้านบาท คาดว่ากว่าจะสิ้นสุดโครงการฯในปี 64 จะมีผู้ยื่นขอกู้ได้เพิ่มขึ้น ส่วนจะเข้าเป้าที่ 1 ล้านหลังหรือไม่? คงต้องรอดูกันต่อไป.