กรุงไทยรับมือ“ชิมช้อปใช้” 4 เท่าหลังระบบรวน
แบงก์กรุงไทยยัน ระบบไม่ล่ม! แค่หน่วงเป็นบางช่วง? หลังคนไทยแห่งสมัครลงทะเบียนรับสิทธิ์เงิน 1,000 บาทเที่ยวทั่วไทยในมาตรการ “ชิมช้อปใช้” จนเต็ม “1 ล้านคน” แค่ช่วง 13.43 น.ของวันแรก (3) ที่เปิดให้ลงทะเบียนฯ เผยขยาย Bandwidth ช่องทางลงทะเบียน และเพิ่มประสิทธิภาพ Website รองรับคน 200,000 คนต่อชม.แล้ว ด้าน รมว.คลัง สั่งขยายรับร้านค้าร่วมมาตรการเป็น 15 ต.ค.นี้ หลังดีมานด์ยังพุ่งต่อเนื่อง
ล้านแล้วจ้า….ปรากฏการณ์คนไทยแห่ รับเงิน 1,000 บาทจากรัฐบาล ในมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ครบ 1 ล้านราย ที่ลงทะเบียนผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com แค่ครึ่งวันของวันแรก (23 ก.ย.) ที่เปิดรับทะเบียน ทว่าก่อนหน้านี้ ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เวลาประมาณ 08-00-10.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์ “คล้ายจะล่ม” กับเว็บไซต์ที่ธนาคารกรุงไทย ดีไซน์เอาไว้
นายอุตตม สาวนายน กล่าวว่า ขอบคุณที่คนไทยให้ความสนใจกับมาตรการดังกล่าวของรัฐบาล ทั้งนี้ เชื่อว่าทั้งชุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจทั้งระบบเกิดการหมุนเวียน เนื่องจากเม็ดเงินที่คนจำนวน 10 ล้านคน นำไปจับจ่ายใช้สอยทั้งในส่วนกลุ่มชิม กลุ่มช้อป และกลุ่มใช้ จะไหลเข้ายังกลุ่มผู้ประกอบร้านค้าระดับเล็กขึ้นมา เมื่อคนกลุ่มนี้ นำไปซื้อสินค้าประเภทวัตถุดิบและทุน ก็จะเกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบ ส่วนจะช่วยเพิ่มจีดีพีได้มากน้อยแค่ไหน หรือหากจะต้องเพิ่มจำนวนคนจาก 10 ล้านคนเป็นเท่าไหร่? หรือไม่? อย่างไร? นั้น คงจะต้องรอดูผลการทำงานของมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เสียก่อน
“สิ่งที่ผมยืนยันได้คือ ได้สั่งการไปยังกรมบัญชีกลางและธนาคารกรุงไทยแล้วว่า ให้ขยายเวลาการรับสมัครร้านค้าที่จะเข้าร่วมมาตรการฯออกไปจากเดิม ที่กำหนดสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 15 ต.ค.ที่จะถึงนี้ แม้ว่าปัจจุบันจะมีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่า 70,000 แห่ง รวมกับของเดิมที่เปิดให้มีการใช้จ่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐก่อนหน้านี้ 80,000 แห่งก็ตาม” รมว.คลัง ระบุ
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศจากการท่องเที่ยว รวมถึงช่วยกระจายรายได้อย่างยั่งยืน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ทำให้เม็ดเงินหมุนหลายรอบ อย่างไรก็ตาม ในการลงทะเบียนวันแรกอาจจะมีปัญหาบ้าง เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจอย่างมาก ทั้งนี้ รมว.คลัง ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายไอทีกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบเพื่อรองรับการเข้าใช้บริการที่เยอะและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการนำระบบ Cloud หรือระบบอื่นๆ ที่จะทำให้การดำเนินงานเสถียรขึ้นมาให้บริการประชาชน
ขณะที่ นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มีมาลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com ครบ 1 ล้านคน ตั้งแต่เวลา 13.43 น. ของวันแรก ในวันที่ 23 ก.ย.แล้ว ทั้งนี้ เมื่อมีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ครบ 1 ล้านคนในแต่ละวัน ระบบจะปิดรับทันที โดยไม่มีการให้เข้าชื่อรอ (waitlist) ดังนั้น ผู้ที่ประสงค์รับสิทธิ์ตามมาตรการจะต้องกลับเข้ามาลงทะเบียนใหม่ในวันถัดไป
“ขอให้ประชาชนตรวจสอบและวางแผนการเดินทางให้ดี เนื่องจากเมื่อลงทะเบียนและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ภายใน 3 วันทำการแล้ว จะต้องเริ่มใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับ SMS โดยผู้ได้รับสิทธิ์สามารถเริ่มใช้สิทธิ์หลังได้รับ SMS 1 วัน สำหรับ G-Wallet กระเป๋า 1 ใช้ได้กับร้านขายสินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการทุกประเภทในจังหวัดที่ได้เลือกไว้เมื่อลงทะเบียน และสำหรับ G-Wallet กระเป๋า 2 ใช้ได้กับร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านขายสินค้าท้องถิ่น บริการที่พัก และบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้าน” โฆษก ก.คลัง ย้ำและว่า
ได้กำหนดเงื่อนไขแบ่งเป็น 3 กรณี ได้แก่ 1.หากเริ่มใช้สิทธิ์ G-Wallet กระเป๋าที่ 1 จะสามารถใช้วงเงิน 1,000 บาท พร้อมสิทธิ์ G-Wallet กระเป๋า 2 ได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.62, 2.หากเริ่มใช้สิทธิ์เฉพาะ G-Wallet กระเป๋า 2 จะสามารถใช้สิทธิ์ G-Wallet กระเป๋า 2 ได้จนถึงวันที่ 30 พ.ค.62 แต่จะถูกตัดสิทธิ์ G-Wallet กระเป๋า 1 ไม่สามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทได้ และ 3.หากไม่เริ่มใช้สิทธิ์ทั้ง 2 กระเป๋า จะถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด และไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ได้อีก
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังยังได้ให้ความมั่นใจว่า โควตาจำนวนผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ซึ่งกำหนดไว้ที่ 10 ล้านคน ตลอดโครงการถือว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยประชาชนสามารถทยอยลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15 พ.ย.62 และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. – 30 พ.ย.62
ส่วนนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การที่ประชาชนแห่งมาลงทะเบียนจนเต็มสิทธิ์ตั้งแต่เวลา 13.43 น.นั้น ถือเป็นความสำเร็จของมาตรการที่จะส่งส่วนต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการ “ชิมช้อปใช้” เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ ลดการนำเงินไปใช้จ่ายเพื่อการเที่ยวท่องเที่ยวต่างประเทศ
โดยเป็นครั้งแรกที่ธนาคากรุงไทยได้วางระบบการชำระเงิน G Wallet ให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยเข้าใกล้ความเป็นสังคมไร้เงินสดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การที่คนไทยใช้จ่ายเงินผ่านแอปฯเป๋าตัง และร้านค้ารับเงินเข้าแอปฯถุงเงิน จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ นายผยง ศรีวณิช กก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวยืนยันว่า ระบบไม่ได้ล่ม แต่เนื่องจากมีคนเข้ามาลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ระบบหน่วงเป็นช่วงๆ จึงอาจต้องใช้เวลาในการรอลงทะเบียน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีการใช้งานจำนวนมากๆ ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญระบบของธนาคารฯต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เนื่องจากการลงทะเบียนในครั้งนี้จะมีการโอนเงินให้กับประชาชน ดังนั้นจึงให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้ อีกทั้งธนาคารฯยังต้องคำนึงถึงเรื่องความมั่นนคง ปลอดภัยสูงสุด รวมถึงความถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้
โดยธนาคารฯได้เฝ้าระวังการลงทะเบียนตลอดเวลา ทันทีที่ทราบว่าประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าลงทะเบียนและเกิดความล่าช้านั้น ธนาคารฯจึงเร่งขยาย Bandwidth ของช่องทางลงทะเบียนเพิ่มอีก 100% และปรับปรุงประสิทธิภาพของ Website เพื่อให้เกิดความรวดเร็วโดยทันที รวมทั้งมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ และยังคงมีความมั่นใจในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) จากกรณีที่หน้าจอแจ้งว่า ลงทะเบียนครบ 1 ล้านสิทธิ์หลังเปิดให้ลงทะเบียนเพียง 6 นาที ธนาคารทราบถึงสาเหตุของเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ของระบบประมวลผลแสดงค่าอัตโนมัติผิดพลาด ซึ่งธนาคารได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ปริมาณคนที่รอลงทะเบียนในเวลาเดียวกัน เทียบให้เห็นภาพชัดๆ ราวกับว่ามีผู้ชมอยู่ในสนามรัชมังคลาฯพร้อมกันถึง 4 สนามที่รอเข้าชมแม็ทซ์การแข่งขันสำคัญๆ ในทุกๆ 1 ชม. นั่นจึงเป็นเหตุผลทำให้ระบบเกิดอาการหน่วงเป็นช่วงๆ ทั้งนี้ ธนาคารฯได้ขยาย Bandwidth ของช่องทางลงทะเบียน และปรับปรุงประสิทธิภาพของ Website จากเดิมที่คาดว่าจะมีคนเข้าลงทะเบียน ชม.ละ 50,000 คน เป็น 200,000 คนใน ชม.เร่งด่วน” กก.ผจก.ใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ย้ำ.