แบงก์เร่งระบายเอ็นพีเอกว่า 1.3 แสนล้าน
โอกาสของผู้ที่คิดจะมีบ้าน เมื่อสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย จัดงาน “มหกรรมบ้านมือสองและสินเชื่อแห่งปี 2562” ขนNPAระบายกว่า 1.3 แสนล้านบาท เผยการผ่อนปรน LTV หนุนตลาดบ้านมือสอง
นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวถึงการจัดงาน “มหกรรมบ้านมือสองและสินเชื่อแห่งปี 2562” ซึ่งจัดโดยสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยว่า เป็นงานเดียวที่ครบทั้งซื้อและกู้ ที่มีบ้านและคอนโดมิเนียมมือสอง ราคาถูกพร้อมโปรโมชั่นสินเชื่อ ซึ่งจะจัดงานติดต่อเป็นเวลา 4 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย. 2562 ณ ฮอลล์ 6 อิมแพค เมืองทองธานี การจัดงานครั้งนี้ ธนาคาพาณิชย์ต่างนำเอ็นพีเอทั้งประเภทบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม มาให้ผู้เข้าชมได้เลือกกว่า 20,000 รายการ อาทิ ทรัพย์ราคาพิเศษ คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ราคา 260,000 บาท คอนโดฯใกล้รถไฟฟ้าราคาล้านต้นๆ ซึ่งคาดธนาคารจะเสนอราคาพิเศษลดกว่า 50% อัตราดอกเบี้ย 0% คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 80,000-100,000 คน ยอดขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดบ้านมือสองในกรุงเทพฯและปริมณฑลนั้น การเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตราลดลง เพราะธนาคารฯมีการบริหารสินเชื่อที่ดี ทำให้การเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ลดลง ขณะที่มีกลุ่มที่มีรายได้มองหาและซื้อทรัพย์มือสองอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 62 ตัวเอ็นพีเอในระบบมีมูลค่ารวม 132,755 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของธนาคารพาณิชย์ มีมูลค่ารวม 92,528 ล้านบาท และเอ็นพีเอที่อยู่ในบริษัทบริหารสินทรัพย์ มีมูลค่า 40,227 ล้านบาท ขณะที่ตัวเลขเอ็นพีเอของระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นปี 2561 มีมูลค่า 93,065 ล้านบาท
โดยทางสมาคมฯประเมินว่า ตลาดบ้านมือสองในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 มีจำนวนประมาณ 65,000 หน่วย (มีสัดส่วนประมาณ 40% ของที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2562 มีมูลค่า 143,000 ล้านบาท (ประมาณ 30% ของมูลค่าที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ในปี 62
ทั้งนี้ ตลาดบ้านมือสอง จะเป็นทรัพย์ที่มีราคาที่จูงใจกับผู้ซื้อ เนื่องจากบ้านมือสองจะมีราคาต่ำกว่าบ้านใหม่ถึง 30-50% ช่วยในเรื่องการผ่อนลดลงได้ 70% เนื่องจากราคาถูกลงกว่าบ้านใหม่ โดยปัจจุบันบ้านใหม่มีราคาที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การมีโครงการข่ายรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น จะทำให้บ้านมือสองตามแนวรถไฟฟ้าที่ขยายออกไปมีให้เลือกมากขึ้น
ในเรื่องของมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ผ่อนปรนเกณฑ์ควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ในส่วนของผู้กู้ร่วมนั้น จะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งเอ็นพีเอของธนาคารด้วย ทั้งนี้ ในต่างประเทศ ตลาดบ้านมือสองจะมีความสำคัญกว่าบ้านมือหนึ่ง.