เผยราคาที่ดินติดชายหาด’ขนอม’พุ่ง12ล./ไร่
เจ้าของโรงแรมหรู “ขนอม บีชฯ”ระบุ การท่องเที่ยวในอ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ยังเติบโต หนุนเอกชนลงทุนพัฒนารีสอร์ทรับนักท่องเที่ยว เผยราคาติดชายหาดพุ่ง 12 ล้านบาทต่อไร่
นายวิทวัส อธิคมานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขนอมพร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ รีสอร์ท จำกัด เจ้าของโรงแรม ขนอม บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่ในอยู่ในอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวในอำเภอขนอม ว่า เป็นอำเภอที่ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ชื่นชอบในธรรมชาติ ทะเลที่สวยงามและความเงียบสงบของสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวในแถบประเทศโซนยุโรป เยอรมัน และจากทศอังกฤษ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ส่วนของคนไทยจะนิยมมาพร้อมครอบครัว
สำหรับโรงแรมขนอม บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโครงการแรกที่ตนเองเข้ามาลงทุนและบริหารโครงการ มูลค่าลงทุน 130 ล้านบาท โดยเป็นที่ดินสะสมของครอบครัวที่ทยอยซื้อมาตั้งแต่ปี 2548 รวมเนื้อที่กว่า 7 ไร่ พัฒนาโรงแรมในรูปแบบรีสอร์ตระดับ 4 ดาว เนื่องจากต้องการยกระดับการบริการของโรงแรมให้มีมาตรฐานสูงขึ้น โดยเปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 15 พฤษาคม 2562 เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางมาพักผ่อนที่อ.ขนอม
“ปัจจุบันอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรม 60% ต่อปี ซึ่งเดิมเราคิดว่า ตลาดกลุ่มลูกค้าต่างชาติจะเติบโต แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจแล้ว การที่เรามีค่าเฉลี่ยการเข้าพักระดับดังกล่าว ก็ถือว่าเก่งแล้ว ตอนนี้ เราลดราคาห้องพักลงมากว่า 30 เปอร์เซ็นต์ โดยวางเป้าภายใน 8 ปี จะสามารถคืนทุนในการลงทุน นอกจากนี้ ทางครอบครัวยังมีที่ดินในขนอมติดชายทะเลประมาณ 5 ไร่ เตรียมแผนพัฒนาโรงแรมระดับ 5 ดาว พูลวิลล่า แบบ 2 และ 3 ห้องนอน ซึ่งการลงทุนต้องดูดีมานด์ก่อน เนื่องจากอัตราการเข้าพักโรงแรมในขนอมทั่วไปอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่หากสามารถขยับขึ้นไปสู่ระดับ 70 เปอร์เซ็นต์ได้ นั่นหมายความว่า อัตราเข้าพักของโรงแรมขนอมบีชจะขึ้นไปแตะระดับ 80 เปอร์เซ็นต์ อาจเป็นจังหวะที่บริษัทจะขยายลงทุนแห่งที่ 2 ได้ “
สำหรับแนวโน้มธุรกิจโรงแรมในอ.ขนอมนั้น แม้จะมีการเปิดให้บริการจำนวนมาก แต่ในปัจจุบัน ด้วยความเจริญทำให้ราคาที่ดินติดชายทะเลปรับสูงขึ้น บางแปลงที่มีการซื้อขายไปแล้วสูงถึง 12 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งเจ้าของรายใหม่จะเข้ามาพัฒนาเป็นรีสอร์ทเช่นกัน
ในด้านการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น นายวิทวัส กล่าวว่า อยากเรียกร้องเรื่องความชัดเจน เกี่ยวกับการออกข้อกำหนดของผังเมืองในการส่งเสริมให้เป็นตลาดเชิงอนุรักษ์ และยังไม่มีข้อบังคับหรือกฎหมายใหม่เกี่ยวกับระยะถอยร่นจากทะเล ที่จะต้องห่างชายหาดกี่เมตร อาคารต้องมีความสูงกี่เมตร นอกจากนี้ ควรกำหนดเรื่องการออกใบอนุญาติก่อสร้างที่ไม่ไปทับระบบน้ำ จนทำให้การไหลของน้ำไม่สะดวก ในระยะยาวจะทำให้เกิดปัญหาต่อการระบายน้ำได้ เหมือนเมืองขนาดใหญ่ เกิดปัญหาน้ำท่วม.
