สสว.ต่อยอดธุรกิจกีฬามุ่งโอลิมปิก 2020
สสว. จับมือ ส.อ.ท. ผลักดันธุรกิจกีฬา สินค้าและบริการของไทยสู่เวทีการค้าโลก ตั้งเป้ายกระดับพัฒนาเครือข่าย SPORT ECONOMY ทั้งระบบ พร้อมส่งเสริมช่องทางตลาดต่างประเทศ รองรับงานโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาธุรกิจกีฬาครั้งยิ่งใหญ่ “จากสนามกีฬา สู่เวทีการค้าโลก” ณ สเตเดียมวัน สปอร์ต คอมมูนิตี้ (Stadium One) ว่า ปัจจุบันกีฬาประเภทต่าง ๆ ได้รับความสนใจจากผู้รักสุขภาพและบุคลทั่วไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจกีฬาเติบโตอย่างรวดเร็ว ณ ปัจจุบัน มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท และในแต่ละปีมียอดเติบโตอย่างน้อย 5% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันคนไทยมีผู้เล่นกีฬาเพื่อการออกกำลังกายมากถึง 16 ล้านคน ทำให้กระแสการออกกำลังกายในขณะนี้กำลังมาแรงและได้รับความสนใจในวงกว้าง เนื่องจากคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาออกกำลังกาย เล่นกีฬา ดูแลรักษาสุขภาพและอาหารกันมากขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2562 คนไทยจะหันมาออกกำลังกายมากขึ้นถึง 25 ล้านคน จากกระแสวิ่งมาราธอนและปั่นจักรยานที่กำลังมาแรง
ทั้งนี้มีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกีฬาตลอดทั้งซัพพลายเชนกว่า 10,000 ราย อาทิ Sport Wear & Accessories Sport Equipment เครือข่ายสนับสนุนกีฬา เครือข่ายสื่อและผู้จัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งทั้งหมดนี้ มีโอกาสที่จะเติบโตทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศมากขึ้น จึงเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ สสว. ให้ความสำคัญและตั้งใจที่จะพัฒนาและส่งเสริมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มีการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพตามแนวทางของการพัฒนาคลัสเตอร์ โดยเน้นการวางรากฐานการทำธุรกิจให้เข้มแข็ง และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเพื่อให้เกิดความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง โดย สสว.คาดหวังว่าสินค้ากีฬาของไทยจะเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกันเพื่อการเติบโตอย่างอย่างยั่งยืนของธุรกิจกีฬาไทยต่อไป
ด้านนายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ ประธานโครงการพัฒนาเครือข่าย SPORT ECONOMY และกรรมการสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) สภาอุตสาหกรรมแห่ง-ประเทศไทย กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักเครือข่าย SPORT ECONOMY เพื่อพัฒนาความรู้ด้านบริหารธุรกิจในด้านต่างๆ แก่สมาชิกเครือข่ายการรับฟังแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเครือข่ายเพื่อสามารถนำไปเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านกีฬาของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะพัฒนาศักยภาพและเพิ่มความเข้มแข็งให้กับ SMEs ในธุรกิจกีฬา ได้แก่ การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำสื่อออนไลน์ การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำ Content Marketing และ Payment Gateway การส่งเสริมช่องทางการตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นไปที่ตลาดญี่ปุ่น เพื่อรองรับงานโอลิมปิก 2020 ที่กำลังจะเกิดขึ้น