‘สิงห์ เอสเตทฯ’ ทุ่มหมื่นล้านรุกอสังหาฯ ในปท.-ตปท.
อสังหาฯในเครือ “บุญรอดฯ” “สิงห์ เอสเตทฯ” ตอกย้ำโมเดล “โกลบอล โฮลดิ้ง คัมปานี” ทุ่มเงินหมื่นล้านบาท ขยายลงทุนในประเทศ จ่อบุกเมียนมา ศึกษาแผนร่วมทุนกับเจ้าธุรกิจเหมืองในเมียนมา ทำโครงการมิกซ์ยูส เปรยพอร์ตโรงแรม ไม่เกินปี 63 รายได้พุ่งทะยานเกือบ 50% ของรายได้รวม
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ”S” เปิดเผยถึงแผนลงทุนของบริษัทฯ ว่า ยังคงเดินหน้าลงทุนและพัฒนาโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามโมเดล “โกลบอล โฮลดิ้ง คัมปานี” โดยเชื่อว่าในครึ่งปีหลังนี้ตลาดอสังหาฯ จะฟื้นตัว เห็นได้จากเดือนพ.ค.62 ที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้าแวะชมโครงการมากขึ้น เนื่องจากการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น โดยในปีนี้ เตรียมงบลงทุน 8,000-10,000 ล้านบาท ทั้งแผนโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์แห่งใหม่ ซอยรางน้ำ ตรงข้ามกับคิง เพาเวอร์ รางน้ำ จำนวน 415 ยูนิต มูลค่า 4,500 ล้านบาท เปิดตัวไตรมาส 3 ปีนี้
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารสำนักงาน Oasis แห่งใหม่ บนถนนวิภาวดี-รังสิต (ใกล้ๆ กับตึกซันทาวเวอร์ของบริษัท) บนพื้นที่ 7 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,000-4,000 ล้านบาท คาดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 ซึ่งขณะนี้ได้มีนักลงทุนไทยสนใจติดต่อเช่าพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา เนื่องจากแผนเดิมจะใช้อาคารดังกล่าวเป็นสำนักงานใหญ่ของ สิงห์ เอสเตทฯ หากมีความชัดเจน จึงจะสามารถเปิดเผยได้
อีกทั้ง ยังมีการลงทุนในโรงแรม 2 แห่ง ในโครงการ CROSSROADS สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ซึ่งใช้เงินลงทุนสูงถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดจะเปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนส.ค.62 ล่าสุด มีนักธุรกิจเหมืองหยกและทับทิม จากประเทศเมียนมา อยากร่วมทุนกับบริษัทสิงห์ฯ พัฒนาโครงการทั้งในประเทศไทยและที่เมียนมา และจากการที่ตนไปดูที่ดินของกลุ่มทุนจากเมียนมา พบว่าที่ดินของกลุ่มทุนดังกล่าวมีอยู่กระจายในหลายเมือง แต่หากจะเริ่มต้นพัฒนาคงเป็นที่เมืองย่างกุ้งซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวมีศักยภาพแต่ยังมีขนาดเล็ก เพราะหากจะพัฒนาจะต้องเป็นในรูปแบบมิกซ์ยูส และต้องซื้อที่ดินเพิ่ม รวมถึงยังให้ความสนใจลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติม อาทิ เวียดนาม แต่ประเทศดังกล่าวก็มีการแข่งขันที่สูง ทำให้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
สำหรับธุรกิจโรงแรม บริษัทจะนำ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมขยายลงทุนในแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ภายในปี 2563 รายได้จากธุรกิจโรงแรมจะมีสัดส่วนเกือบ 50% เมื่อเทียบกับรายได้รวมของสิงห์ฯ และคาดว่าในอีก 5 ปี ธุรกิจโรงแรมของสิงห์ จะมีห้องพักให้บริการ 10,000 ห้อง จากปัจจุบันมีให้บริการอยู่ 4,500 ห้อง.