บุหรี่ไทยอ่วมขึ้นซองละ 19 บาท
คลังยิ่งปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะมั่นใจจะสามารถลดปริมาณผู้สูบบุหรี่ลงได้อย่างแน่นอน ขณะที่รายได้รัฐบาลจะเพิ่มขึ้น 15,000 ล้านบาท
การปรับขึ้นภาษีบุหรี่ 10-15 บาทของรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ให้เหลือน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างกระทรวงการคลังกับกระทรวงสาธารณสุข นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าว และยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะยังไม่มีการปรับขึ้นภาษีเหล้าและเบียร์ในช่วงนี้
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 00.01 น.ของวันที่ 10 ก.พ.59 ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ทางด้านฝั่งของราคา จากเดิม 87% เพิ่มขึ้นเป็น 90% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุด และเพิ่มภาษีทางด้านฝั่งปริมาณจาก 1 บาทต่อกรัม เพิ่มขึ้นเป็น 1.10 บาทต่อกรัม โดยจะจัดเก็บภาษีฝั่งที่เสียภาษีให้แก่รัฐมากที่สุด
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า “การปรับขึ้นอัตราภาษีบุหรี่ในครั้งนี้ จะส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่ม ขึ้นในช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ2559 อีก 12,000 ล้านบาท และหากจัดเก็บภาษีใหม่ครบ 12 เดือนคาดว่ารายได้กรมสรรพสามิตจะเพิ่มขึ้นประมาณ 15,000 ล้านบาท” และกล่าวว่า
“บุหรี่ไม่ใช่สินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ แต่เมื่ออัตราภาษีใหม่มีบังคับใช้ไปแล้ว ผู้ประกอบการจะนำบุหรี่ออกจากโรงงานก็ต้องมาซื้อแสตมป์กับกรมสรรพสามิต เช่น เดิมแสตมป์เราขายดวงละ 20 บาท ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 30 บาท”
สำหรับบุหรี่ที่ออกจากโรงงานผลิตบุหรี่ นับจากวันนี้ (10 ก.พ.) เป็นต้นไป ก็จะเสียภาษีในอัตราใหม่ ส่วนบุหรี่ที่เสียภาษีไปแล้ว คือ นำออกจากโรงงานก่อนวันที่ 10 ก.พ.59 ซึ่งเป็นอัตราภาษีเก่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่า ปรับราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทางกรมฯ จะไม่เข้าไปควบคุมราคาสินค้าตรงจุดนี้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจำนวนแสตมป์ที่กรมสรรพสามิตจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้พบสิ่งผิดปกติ ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดข่าวรั่ว หรือมีการกักตุนบุหรี่ก่อนหน้าที่อัตราภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้นั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่บุหรี่ที่เสียภาษีเรียบร้อยแล้วและอยู่ในสต๊อกของผู้ค้าบุหรี่ก็เป็นเรื่องของผู้ค้าว่า จะปรับราคาใหม่ทันทีเลยหรือไม่หรือจะจำหน่าย บุหรี่ราคาเดิมที่อยู่ในสต๊อกไปจนกว่าจะหมดก็ได้
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตยังสั่งให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตลงพื้นตรวจสอบบุหรี่เถื่อนที่อาจจะทะลักเข้ามาตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยเนื่องจากราคาบุหรี่ที่จำหน่ายภายในประเทศไทยมีราคาแพงมากขึ้น ส่งผลให้บุหรี่เถื่อนทะลักเข้าไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย จึงต้องเตรียมความพร้อมและจับกุมบุหรี่เถื่อนเหล่านี้ให้หมดไป
ขณะที่โรงงานยาสูบได้ประกาศราคาขายปลีกบุหรี่ใหม่ โดยบุหรี่ยี่ห้อ wonder เดิมขายปลีกซองละ 49 บาท เพิ่มขึ้น 14 บาท ขายปลีก 63 บาท สามิต 90 รอยัล 90 กรุงทอง 90 กรองทิพย์ 90 สายฝน 90 เดิมขายปลีกซอง 67 บาท เพิ่มขึ้น 19 บาท ขายปลีก 86 บาท รอยัลฯ 90 เดอลุกซ์ เดิมขายปลีกซองละ 86 บาท เพิ่มขึ้น 24 บาท ขายปลีก 110 บาท SMS เดิมขายปลีกซองละ 40 บาท เพิ่มขึ้น 11 บาท ขายปลีก 51 บาท GOAL เดิมขายปลีกซองละ 35 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท ขายปลีก 45 บาท และ KRONG THIP 7.1 เดิมขายปลีกซองละ 50 บาท เพิ่มขึ้น 18 บาท ขายปลีก 68 บาท โดยบุหรี่ตระกูล 90 ของโรงงานยาสูบมีราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ โดยเฉพาะ รอยัลฯ 90 เดอลุกซ์ เพิ่มขึ้นถึง 24 บาทต่อซอง ส่วนราคาบุหรี่ของโรงงานยาสูบที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราภาษีของกรมสรรพสามิตเนื่องจากต้องบวกรวมเสียภาษีท้องถิ่น และภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ด้วย