กสอ.เสริมแกร่งแปรรูปอาหารเมืองเหนือ
กยศ.พร้อมหารือ “กฤษฎีกา” สร้างแนวปฏิบัติช่วยเหลือลูกหนี้ กลุ่มที่มีคำพิพากษาและมีกำหนดอายุความบังคับคดีแล้ว เผยแม้จะขัดกับประเด็นข้อกฎหมาย แต่พร้อมผ่อนปรนโดยการชะลอการขายทอดตลาด แนะลูกหนี้ค้างจ่ายกลุ่มใหม่ปี 62 เร่งทำสัญญาประนีประนอมในชั้นศาล เพื่อรับสิทธิ์ผ่อนชำระหนี้ 15 ปี
กรณีที่ตัวแทนกลุ่มลูกหนี้ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ถูกบังคับคดี สืบทรัพย์ และยึดทรัพย์ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อให้ช่วยเหลือในการชำระหนี้ กยศ. โดยเรียกร้องให้ยกเลิกดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าทนายความ และค่าธรรมเนียมต่างๆ และให้ชำระเงินคืนเฉพาะเงินต้นทั้งหมดภายในเวลา 15 ปี พร้อมกับยกเลิกการยึดทรัพย์ของผู้กู้และผู้ค้ำประกันทั้งหมด และกรณีผู้ที่ชำระเบี้ยปรับแล้วนั้น ขอให้นำยอดเงินส่วนนี้ไปหักลบจากเงินต้นแล้วให้ชำระคืนต่อไปตามศักยภาพของแต่ละคน รวมถึงขอขยายเวลาการชำระเงินคืน เพราะลูกหนี้ไม่ได้มีงานทำหรือมีเงินเดือนสูงทุกคน นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผจก.กยศ.กล่าวว่า ที่ผ่านมา กยศ.มีมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการที่ออกในช่วงที่ผ่านมา มีดังนี้
1.ลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ค้างชำระหนี้และปิดบัญชีในครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62 – 29 ก.พ.63
2.ลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 75 เฉพาะผู้กู้ยืมเงินกลุ่มก่อนฟ้องคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62 – 29 ก.พ.63
3.พักชำระหนี้ 1 ปี สำหรับผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฉพาะกลุ่มผู้กู้ยืมก่อนฟ้องคดี กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี จะพักชำระหนี้ในงวดปี 63 และผู้กู้ยืมจะต้องกลับมาชำระหนี้ ในวันที่ 5 ก.ค.64 ส่วนกรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน จะพักชำระหนี้ 12 เดือน นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนอนุมัติ โดยในระหว่างพักชำระหนี้กยศ.จะไม่ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62 – 29 ก.พ.63
4.ปรับลดอัตราเบี้ยปรับหรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินกู้ยืมคืน จากอัตราปัจจุบัน (ร้อยละ 12-18 ต่อปี) เหลืออัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป
5.ลดเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 75 ของเบี้ยปรับที่มีอยู่ ณ วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาล สำหรับผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีในปี 62 และให้โอกาสผ่อนชำระได้สูงสุดไม่เกิน 15 ปี
6.ลดหย่อนเงินต้น 3% ณ วันที่ชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับกลุ่มผู้กู้ยืมปกติที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งถือว่าเป็นผู้กู้ยืมชั้นดี หรือผู้กู้ยืมที่อยู่ในช่วงปลอดหนี้
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มลูกหนี้ กยศ.นั้น นายชัยณรงค์ย้ำว่า เป็นกลุ่มผู้กู้ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและบังคับคดี ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้มีคำพิพากษาแล้ว และมีกำหนดอายุความบังคับคดี ทำให้มีข้อติดขัดกับประเด็นข้อกฎหมายในการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม กยศ.จะรับเรื่องนี้ไปพิจารณาและส่งเรื่องไปหารือปัญหาข้อกฎหมายกับทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอคำวินิจฉัยในแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก กยศ.หน่วยงานของรัฐ จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ในการดำเนินการบังคับตามกฎหมายนั้น จะพยายามดำเนินการด้วยความระมัดระวังและผ่อนปรน เพื่อให้โอกาสแก่ผู้กู้เสมอมา ทั้งนี้ ในรายที่ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา กยศ.จำเป็นต้องใช้สิทธิในการบังคับคดีภายในอายุความ แต่ก็ให้โอกาสแก่ลูกหนี้ผ่อนชำระต่อได้อีกระยะหนึ่ง โดยการชะลอการขายทอดตลาดไว้ ซึ่งที่ผ่านมา กยศ.ได้ทำความเข้าใจกับลูกหนี้ให้รับทราบและเข้าใจในสิ่งที่กองทุนดำเนินการ
“ปัจจุบัน กยศ.อยู่ระหว่างดำเนินคดีปี 62 หากผู้กู้รายใดถูกดำเนินคดีขออย่าได้กังวลใจ และให้ไปศาลตามที่นัดหมาย เพื่อขอทำสัญญาประนีประนอม โดย กยศ.จะให้สิทธิผ่อนชำระหนี้ต่อสูงสุดไม่เกิน 15 ปี ขึ้นกับจำนวนทุนทรัพย์ และยังได้ลดเบี้ยปรับอีก 75% แต่หากผู้กู้ยืมผิดนัดชำระงวดใดงวดหนึ่งในปีที่ 2 จะนำส่วนลดเบี้ยปรับกลับเข้ามาเป็นหนี้คำพิพากษา” ผจก. กยศ. ย้ำในที่สุด.