กองทุนหมู่บ้านแห่กู้เงินแบงก์รัฐใกล้หมด
บอร์ด สทบ. รับทราบผลการดำเนินการกองทุนหมู่บ้าน ปลื้ม “ออมสิน-ธ.ก.ส.” อนุมัติสินเชื่อได้เร็วถึง 80% วงเงินกู้ทั้งหมด 60,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้สมาชิกกู้เพื่อประกอบการอาชีพการเกษตร 80% อีก 15% ประกอบอาชีพค้าขาย และอื่นๆ อีก 5%
“สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ประมาณ 80% นำเงินไปประกอบอาชีพเกี่ยวกับภาคการเกษตร อีก 15% นำไปประกอบอาชีพค้าขาย และที่เหลือ 5% นำไปประกอบอาชีพอื่นๆ” นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าว
ที่ผ่านมา สทบ. ไปให้เงินสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านแห่งละ 1 ล้านบาท รวม 80,000 หมู่บ้าน แต่หากเป็นหมู่บ้านที่ดีคือ เกครเอ และเกรดบี จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอีกแห่งละ 1 ล้านบาท และยังสามารถกู้เงินกับธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.ได้อีกด้วย แต่หากเป็นกองทุนหมู่บ้านเกรดซี และดี ต้องปรับปรุงคุณภาพก่อนถึงจะได้รับเงินสนับสนุนล้านที่สอง และกู้เงินจากธนาคารได้
นายนที กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ สทบ.(บอร์ด) ที่มีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้รับทราบโครงการเงินกู้ 40,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 5% ซึ่ง อนุมัติไว้ตั้งแต่ช่วงที่นายสมหมาย ภาษี เป็นรมว.คลังว่า มีกองทุนหมู่บ้านเสนอขอกู้เงินผ่าน ธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ทั้งสิ้น 8,091 กองทุน เป็นวงเงิน 11,160ล้านบาท
ขณะที่วงเงินกู้ก้อนใหม่ก้อนที่ 2 จำนวน 60,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0% ที่อนุมัติช่วงนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว. คลัง กองทุนหมู่บ้านเสนอขอกู้มา 50,050 กองทุน คิดเป็น 83% โดยเป็นที่อนุมัติแล้ว 46,166 ล้านบาท คิดเป็น 77% โดยกองทุนหมู่บ้านฯ ได้นำเงินไปปล่อยให้แก่สมาชิก 2,893,351 ราย เฉลี่ยรายละ 15,000-20,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้ สมาชิกได้นำเงินไปประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับเกษตรกร 80% อาชีพค้าขาย 15% และประกอบอาชีพอื่น 5 %
“ยอมรับว่าธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. อนุมัติเงินกู้รวดเร็วเกินความคาดหมาย ซึ่งในเบื้องต้นคิดว่า จะกู้เงินได้ไม่เกิน 50% แต่ขณะนี้ปล่อยกู้ไปแล้วถึง 80% และคาดว่า ในเดือนธ.ค.นี้ น่าจะมีการปล่อยกู้เพิ่มขึ้นแต่อยู่ในลักษณะที่ชะลอตัว” นายนที กล่าว
นอกจากนี้ บอร์ด สทบ. ยังอนุมัติการเพิ่มทุนให้กับกองทุนหมู่บ้านที่จะได้รับเงินล้านที่ 2 เพิ่มเติมอีก 2,475 กองทุนเป็นวง เงิน 2,475 ล้านบาท และมีการโอนเงินให้กับกองทุนใหม่อีก 2 แห่ง รวม 2 ล้านบาท ที่เพิ่งตั้ง และประกาศเป็นชุมชนใหม่ ในจังหวัดนนทบุรี และสมุทรสาคร
รวมทั้งได้มีการพิจารณาเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับกองทุนที่มีการจัดทำแผนฟื้นฟูเพื่อให้ได้รับเงินล้านที่ 2 สำหรับกองทุนหมู่บ้านเกรดซี และดี ซึ่งได้จัดทำแผนฟื้นฟูแล้ว 3 เดือน และจบไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย.25 แต่ยังต้องมีขั้นตอนของแผนปฏิบัติการ ซึ่งยังต้องมีการแก้ปัญหาในบางจุด ที่ประชุมบอร์ดจึงอนุมัติให้เวลาในการจัดทำแผนปฏิบัติการอีก 3 เดือนระหว่าง ธ.ค.2558-ก.พ.2559
ขณะที่กองทุนอีก 16,091 แห่งที่เหลือ จะมีการจัดทำแผนปฏิบัติการพร้อมกับการจัดอบรมพิเศษไปพร้อมกัน โดยตั้งเป้าหมาย ให้ประสบความสำเร็จไม่ต่ำกว่า 50% ให้ได้รับเงินเพิ่มทุน
ส่วนข้อเสนอของกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มซี และดี ที่ต้องการกู้เงินจากธนาคารเฉพาะกิจทั้ง 2 แห่ง ขณะนี้กลุ่มซี และดี ได้รับการประเมินว่า ได้มีการพัฒนาเทียบเท่ากลุ่มเอ และบีแล้ว 6,859 กองทุน จึงอยากมีส่วนร่วมในวงเงินกู้ด้วย แต่ในเรื่องนี้ทาง สทบ. จะต้องนำไปหารือกระทรวงการคลังว่า วงเงิน 60,000 ล้านบาทจะมีเหลือเท่าไหร่ และต้องเพิ่มวงเงินกู้อีกหรือไม่ แต่เท่าที่หารือกับธนาคารระบุว่า สามารถเพิ่มวงเงินกู้ได้ แต่มีเงื่อนไขว่า กองทุนนั้นจะต้องผ่านเกณฑ์ และได้รับเงินในล้านที่ 2 แล้วเท่านั้น เพราะจะมีความเข้มแข็ง และมีผลการประเมินผ่านมา 3 ปีแล้ว ขณะที่ธนาคารในฐานะเจ้าหนี้ จะรู้ดีว่าลูกค้าแต่ละคนเป็นอย่างไร แต่ทั้งหมดนี้ จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อน