“ทรูมูฟ-เอไอเอส”ทุ่ม 8 หมื่นล.คว้า 4จี
ทรูมูฟ-เอไอเอส ประมูลเดือด 4จี มูลค่า 8 หมื่นล้าน นานถึง 30 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 86 รอบ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้จัดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2558 ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศค่อนข้างคึกคัก โดยมีผู้เข้าร่วมประมูล 4 รายคือ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ของกลุ่มจัสมิน บริษัทดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ในเครือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ในเครือ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE
สู้ดุเดือดข้ามวัน-ข้ามคืน การประมูลได้ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึง 10.00 น. ของวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งเป็นเวลารวมถึง 24 ชม. ทำให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้ประชุมหลังจากที่ผู้เข้าร่วมประมูลส่งข้อความผ่านระบบคอมพิวเตอร์จากในห้องประมูลออกมาว่า ต้องการหยุดพักชั่วคราวเป็นเวลา 3 ชม. เนื่องจากเหนื่อยล้า และมีการเคาะราคาอย่างต่อเนื่อง สภาพร่างกายไม่ได้พักผ่อน กทค.จึงมีมติให้ตามคำร้องขอ โดยให้หยุดพักตั้งแต่เวลา 11.30 น. และกลับมาเริ่มเคาะราคาอีกครั้งในเวลา 14.30 น. จนถึงเวลา 19.06 น. โดยใช้เวลาในการเคาะราคาทั้งสิ้นประมาณ 29 ชม. ซึ่งการประมูลได้จบลงในรอบที่ 86 ราคารวม 80,778 ล้านบาท โดยชุดที่ 1 มีมูลค่า 39,792 ล้านบาท ชุดที่ 2 มูลค่า 40,986 ล้านบาท
หลังจากเคาะราคาสู้กันอย่างดุเดือดยาวนาน จนกระทั่งถึงเวลา 19.40 น. เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.58) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ประกาศสิ้นสุดประมูลในรอบที่ 86 โดยทรูมูฟคว้าใบอนุญาต ชุดที่ 1 ด้วยราคาประมูล 39,792 ล้าน ส่วนเอไอเอส คว้าใบอนุญาต ชุดที่ 2 ด้วยราคาประมูล 40,986 ล้าน รวมราคาทั้ง 2 ใบอนุญาตแล้วเป็นมูลค่า 80,778 ล้านบาท คิดเป็น 203% จากราคาประมูล ส่วนยอดสุดท้ายของผู้ไม่ชนะการประมูล คือ แจส โมบาย อยู่ที่ 38,996 ล้านบาท และดีแทค อยู่ที่ 17,504 ล้านบาท
ทั้งนี้ภายหลังจากการประมูลเสร็จสิ้น พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานกรรมการ กทค. กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม กทค. เพื่อร่วมพิจารณากับคณะกรรมการธรรมาภิบาลรับรองผลการประมูลในวันที่ 17 พ.ย.2558 นี้ และหลังจากประกาศรับรองผู้ชนะอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ชนะการประมูลสามารถนำเงินมาจ่ายค่าใบอนุญาตงวดแรกในอัตรา 50% ได้ทันที ซึ่งได้กำหนดให้จ่ายงวดแรกภายใน 90 วัน และจ่ายงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ในอัตรา 25%