สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 ธ.ค. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และสภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
คาดการณ์ : ในวันที่ 20 – 24 ธ.ค. 68 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงเหนือ ในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับภาคใต้มีฝนลดลงเนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 88% ของความจุเก็บกัก (70,965 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 81% (46,841 ล้าน ลบ.ม.) มากกว่าปี 2567 จำนวน 6,555 ล้าน ลบ.ม.
3. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (18 ธ.ค. 68) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “เมื่อเมืองล่มเพราะจมน้ำ : บทเรียนต้องไม่ถูกลืม” พร้อมด้วยนักวิชาการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อถอดบทเรียนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เมือง โดยเฉพาะกรณีเหตุการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในช่วงฤดูฝนปี 2568 นำไปสู่การวิเคราะห์ปัญหาอย่างรอบด้าน ทั้งในแง่ของข้อมูลด้านน้ำ สาเหตุของภัยพิบัติ ผลกระทบที่เกิดขึ้น และวิธีการจัดการที่มีประสิทธิภาพในอนาคต ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ในการเสวนา รองเลขาธิการ สทนช. ได้สะท้อนบทเรียนสำคัญจากการติดตาม วิเคราะห์ และคาดการณ์สถานการณ์ฝน ระดับน้ำ และปริมาณน้ำ ซึ่งพบว่าปริมาณฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้น ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองสายหลักเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว เกินขีดความสามารถของระบบระบายน้ำในเขตเมือง จึงจำเป็นต้องอาศัยการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการและการตัดสินใจเชิงระบบในภาวะวิกฤติ พร้อมกันนี้ ได้กล่าวถึงบทบาทของ สทนช. ในการยกระดับโครงสร้างการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะการดำเนินงานในภาวะวิกฤตน้ำตามมาตรา 24 การจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ การเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการสนับสนุนข้อมูลเพื่อการตัดสินใจของผู้บริหารในทุกระดับ.นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนโครงการระยะยาวทั้งมาตรการเชิงโครงสร้างและไม่ใช่โครงสร้าง อาทิ การพัฒนาแบบจำลองความสูงเชิงตัวเลข (DEM) ในพื้นที่เมืองที่เสี่ยงน้ำท่วม การจัดทำระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (DSS) การยกระดับการพยากรณ์และเตือนภัยล่วงหน้า รวมถึงการจัดทำผังน้ำและแผนที่เสี่ยงภัย เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำในอนาคตอย่างยั่งยืนการเสวนาครั้งนี้นับเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบทเรียนจากเหตุการณ์จริง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพ สามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เมืองได้อย่างเป็นรูปธรรม
5. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 18 ธ.ค. 68 ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด 21 อำเภอ ได้แก่ จ.นครสวรรค์ (อ.ชุมแสง และพยุหะคีรี) จ.สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ บางปลาม้า และสองพี่น้อง) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา บางซ้าย และลาดบัวหลวง) จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ และสามโคก) จ.นครปฐม (อ.บางเลน สามพราน และนครชัยศรี) และ จ.สงขลา (อ.ระโนด กระแสสินธุ์ และสทิงพระ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 ธ.ค. 68


