สรุปข่าวประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2568
สรุปข่าวประจำวัน ประกาศยุบสภา : โปรดเกล้าฯ “พ.ร.ฎ.ยุบสภา” อนุทิน อ้างเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่มีปัญหารุมเร้าในหลายๆ ด้าน ส่งผลให้รัฐบาลไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพหากปล่อยให้สภาวการณ์เป็นอยู่เช่นนี้ย่อมจะเกิดความไม่มั่นคงทางการเมือง และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ อันจะนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาของประชาชนต่อระบบรัฐสภา และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงยุบสภา จัดให้เลือกตั้งภายใน 45 วัน ไม่เกิน 60 วัน
สรุปข่าวประจำวัน

กระแสอนุทิน :
อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศยุบสภาในจังหวะที่พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบทางการเมืองอย่างมาก เนื่องด้วยจากเกิดสถานการณ์สู้รบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้คะแนนนิยมของอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย เพิ่มขึ้นสูง หากดูกระแสจากโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้น
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ อนุทิน คนเดียวกันนี้ ถูกโจมตีอย่างหนักในกระแสโซเชียลมีเดีย จากการบริหารงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ และมีผู้เสียชีวิตนับร้อย ว่ากันว่า ถ้าสถานการณ์สู้รบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเป็นอยู่แบบนี้ คะแนนนิยมของอนุทินและพรรคภูมิใจไทย ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดีไม่ดี พรรคภูมิใจไทย อาจได้เป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ก็เป็นได้
คาดเลือกตั้ง 8 ก.พ. :
นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งและมีการยุบสภา เมื่อยุบสภา คณะกรรมการการเลือกตั้ง ก็จะต้องมีการประชุม เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เพราะมีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ว่าอาจมีการยุบสภาขึ้น จึงได้มีการแบ่งเขตไว้ตามจำนวนประชากรที่เพิ่มลดในบางจังหวัดแล้ว คาดว่า ภายในวันจันทร์หรืออังคารก็จะมีความชัดเจน ขณะนี้สำนักงาน กกต.ได้มีการจัดทำไทม์ไลน์การเลือกตั้งไว้แล้ว และมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง พร้อมยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 8 ก.พ. 2569 ตามที่มีการคาดการณ์ไว้

ปชน.ขอโทษ :
พรรคประชาชน โพสต์ว่า จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา พรรคประชาชนน้อมรับทุกคำวิจารณ์ ทุกความผิดหวัง ทุกความเสียใจ จากพี่น้องประชาชน ทุกคำพูด ทุกความเห็น ทุกความรู้สึก มีคุณค่า มีความหมายต่อการเดินทางต่อไปของพรรคในฐานะพรรคมวลชนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของประชาชน เราจึงขอเรียนเชิญประชาชนทุกท่าน มาร่วมงานปิกนิกเปิดใจ “พรรคประชาชนพบประชาชน” ผู้บริหารพรรคตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้แทนราษฎรและอดีตผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน จะขอโอกาสในการพูดคุยกับทุกท่านแบบเปิดใจ รับฟังทุกความเห็นทุกคำวิจารณ์ และกล่าวคำขอโทษต่อหน้าทุกท่านด้วยตัวเอง
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (12 ธ.ค. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 48,458.05 จุด ลดลง 245.96 จุด (0.51%) แนสแด็ก ปิดที่ 25,196.73 จุด ลดลง 489.95 จุด (1.91%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,827.05 จุด ลดลง 73.95 จุด (1.07%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,254.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.56 จุด (0.04%) มูลค่า 36,693.42 ล้านบาท
ทองคำขึ้น 1,000 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (12 ธ.ค.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 64,350.00 บาท ขายออกบาทละ 64,450.20 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 63,065.60 บาท ขายออกบาทละ 65,250.00 บาท ราคาทองคำขึ้น 1,000 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 11 ธ.ค.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (12 ธ.ค.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 31.8205 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 42.8095 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.5109 บาทต่อ 1 ยูโร, 20.6649 บาท ต่อ 100 เยน, 4.1035 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 24.8042 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.8291 ต่อ 1 ริงกิต
ไทยยกธงขาวเป็นข่าวปลอม :
กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพการยกธงขาว ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุเป็นแนวรบ พระวิหารในโซเชียลมีเดีย จากการตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว ยังมีการรบปะทะและตอบโต้กันต่อเนื่อง รวมทั้งยังไม่มีการพูดคุยหรือเจรจากับทางฝ่ายกัมพูชาแต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยให้ยึดข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐบาล ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา และเพจหลักกองทัพภาคที่ 2 ต่อไป

ส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา :
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน ชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชาว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบระหว่าง ไทย – กัมพูชา ที่เริ่มต้นเมื่อกลางเดือนมิ.ย. 68 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันทุกราย ไม่ส่งออกน้ำมันไปขายให้กัมพูชา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันภายในประเทศทุกราย
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้พลังงานจังหวัดในพื้นที่ติดชายแดนให้ตรวจสอบการลักลอบส่งออกน้ำมันทั้งที่ส่งจากไทย และลักลอบการส่งผ่าน สปป.ลาว ทำให้ตั้งแต่เดือนก.ค. 2568 เป็นต้นมา ไม่มีการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา 100% และจากการตรวจสอบจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีผู้ค้ารายใดส่งออกน้ำมันให้กัมพูชา กระทรวงพลังงานได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการดูแลความมั่นคงของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
กระทรวงพลังงานมีกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ประกอบการค้าน้ำมันทุกรายต้องรายงานข้อมูลการส่งออกน้ำมันต่อกรมธุรกิจพลังงานอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกำกับดูแลและตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน
สหรัฐฯ คว่ำบาตรเวเนซุเอลารอบใหม่ :
สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่อเวเนซุเอลา โดยมุ่งเป้าหมายไปที่หลานชาย 3 คนของภรรยาประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันดิบ 6 ลำและบริษัทเดินเรือที่เกี่ยวข้องอีก 6 แห่ง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯ กำลังแรงกดดันต่อเวเนซุเอลา ทั้งนี้ เรือบรรทุกน้ำมัน 4 ลำได้แก่ เรือ H. Constance ที่สร้างในปี 2545 และเรือ Lattafa ที่สร้างในปี 2546 ซึ่งเป็นเรือที่ติดธงปานามา ส่วนอีก 2 ลำติดธงหมู่เกาะคุกและฮ่องกง
“นิปปอน สตีล” ทุ่ม 4 หมื่นล้านดอลล์ใน 5 ปี :
นิปปอน สตีล (Nippon Steel) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยในวานนี้ (12 ธ.ค.) ว่า บริษัทตั้งเป้าลงทุนราว 6 ล้านล้านเยน (3.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการอัปเกรดโรงงานของยูเอส สตีล (United States Steel Corp) ที่บริษัทเพิ่งซื้อกิจการเข้ามา ซึ่งนิปปอน สตีล เปิดเผยแผนบริหารจัดการระยะกลางถึงระยะยาว ซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจต่างประเทศเพื่อเสริมแกร่งการแข่งขันในตลาดโลก ท่ามกลางอุปสงค์เหล็กและเหล็กกล้าที่ลดลงในประเทศญี่ปุ่น
ตลาด EV โลกแผ่ว :
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในเดือนพ.ย. ขยายตัวในอัตราช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567 โดยตลาด EV จีนเริ่มทรงตัว ขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 หลังโครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสิ้นสุดลง ทั้งนี้ ข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกซึ่งใช้เป็นตัวชี้วัดยอดขายนั้น เพิ่มขึ้น 6% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับเกือบ 2 ล้านคัน ในจีนนั้น ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับมากกว่า 1.3 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นรายปีต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567 ขณะที่ในอเมริกาเหนือ ยอดจดทะเบียนลดลง 42% เหลือเพียงมากกว่า 100,000 คันเล็กน้อย หลังจากยอดขายลดลงแรงในเดือนต.ค. เมื่อโครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษีสิ้นสุดลง และยอดจดทะเบียนตลอดปีจนถึงขณะนี้ลดลง 1%

เซอร์ไพรส์ขอจริง :
ถือเป็นข่าวดีที่สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนคลับและเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง เมื่อคู่รัก แกงส้ม-ธนทัต ชัยอรรถ หรือ แกงส้ม เดอะสตาร์ ได้ทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนสาว ดาว-ณัฐภัสสร สิมะเสถียร หรือ ดาวโอเกะ แต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ต่างประเทศ โดย แกงส้ม ได้วางแผนทำเซอร์ไพรส์เพื่อขอตีตราจองแฟนสาว ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความตื้นตันใจ จนในที่สุดภารกิจขอแต่งงานก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

“เวย์ ไทเทเนียม” รับทราบข้อกล่าวหา :
ความคืบหน้ากรณีดราม่าร้อนวงการบันเทิง ล่าสุดวานนี้ (12 ธ.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เวย์ ไทเทเนียม พร้อมด้วย ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งเกี่ยวพันกับภรรยาสาว “นานา ไรบีนา” หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไปก่อนหน้านี้ ภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการรับทราบข้อกล่าวหา ทนายสายหยุด ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดสำคัญ โดยระบุว่า มูลเหตุของคดีนี้เกิดจากมีนักธุรกิจรายหนึ่งโอนเงินเข้าบัญชีของ เวย์ รวม 10 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจผิดและแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ทนายความยืนยันข้อเท็จจริงจากการสอบถามลูกความว่า “เวย์ ไม่ทราบเรื่องที่มาของเงิน”
กวาด 3 ทอง :
ทัพเทควันโดไทยโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในศึกซีเกมส์ 2025 วันที่ 12 ธ.ค. ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ “บัลลังก์ ทับทิมแดง”, “ธนาธร แซ่โจ” และ “สิรวิชญ์ มะหะหมัด” กวาด 3 เหรียญทอง ส่วน “กมลชนก สีเคน” คว้าเหรียญเงิน
คว้าทองกรรเชียง 200 ม. :
มีอา มิลลาร์ ผงาดคว้าเหรียญทองกรรเชียง 200 เมตรหญิง ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ทำลายสถิติประเทศไทย พร้อมเป็นนักว่ายน้ำไทยคนแรกในรอบ 22 ปีที่ครองแชมป์รายการนี้
กวาดชัยรวด :
ทัพแบดมินตันไทย โชว์ฟอร์มสุดแกร่งในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซีเกมส์ 2025 ทั้ง “เมย์” รัชนก และ “เม” ศุภนิดา ผ่านเข้ารอบตัดเชือกหญิงเดี่ยว ขณะที่คู่ผสม “บาส-เฟม” เดชาพล/ศุภิสรา และ “ไตเติ้ล-เจน” รุษฐนุภัค/เฌอย์ณิชา เก็บชัยได้สำเร็จ การันตีเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ประวัติ-วิสัยทัศน์ ดร.เชน ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ คาดนั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย


