ไทยพาณิชย์ลดคาดการณ์เศรษฐกิจเหลือโต 2.0-2.5%
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรืออีไอซี ลดการคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งในปีนี้ และปีหน้าลง เนื่องจากการส่งออกลดลงมากกว่าที่คาดการณ์เดิม
อีไอซี หรือศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ และธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.0-2.5% ในปี 2558 และ 2.5-3.0% ในปี 2559 ซึ่งเป็นการปรับลดประมาณการลงจากเดิม เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ค่อนข้างน้อยเนื่องจากภาคการส่งออกได้รับผลกระทบโดยตรงจากการชะลอตัวลงของการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง รวมถึงทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไทยส่งออกยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว
นอกจากนี้การส่งออกไปยังประเทศในแถบอาเซียนก็ได้รับผลกระทบเช่นกันเนื่องจากหลายประเทศที่พึ่งพาการส่งออกไปจีนมีเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และค่าเงินที่อ่อนค่า ภาวะดังกล่าวทำให้ครัวเรือนในภาคเกษตร และธุรกิจขนาดเล็กประสบปัญหาด้านรายได้ และยังทำให้ภาคธุรกิจโดยรวมชะลอการลงทุนออกไปเพราะขาดความเชื่อมั่นแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม ทั้งนี้การชะลอตัวลงของจีนเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไปอีกหลายปี
พร้อมกับระบุว่า แรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะมาจากการดำเนินนโยบายของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยว อุปสรรคในภาคการส่งออกทำให้ภาครัฐจะเข้ามีบทบาทมากขึ้น สำหรับปี 2559 การใช้จ่ายในประเทศน่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการรายเล็กที่เริ่มต้นในเดือนกันยายน2558 ในด้านงบประมาณ รัฐบาลมีแผนดำเนินนโยบายการคลังที่ขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 แสนล้านบาทจากเดิม 2.5 แสนล้านบาท โดยงบประมาณลงทุนในปีงบประมาณ 2559 จะเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า
นอกจากนี้การเร่งสร้างความเชื่อมั่นและกำหนดทิศทางการส่งเสริมการลงทุนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทั้งในและนอกประเทศจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการลงทุนภาคเอกชนในระยะต่อไป นอกเหนือจากการดำเนินนโยบายของภาครัฐแล้ว ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของไทยอีกครั้งในปี 2559 เพราะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศน่าจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10% และในส่วนของนักท่องเที่ยวจากจีนก็ไม่ได้ชะลอลงตามเศรษฐกิจจีน
ปัจจัยเสี่ยงในเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายเป็นสิ่งที่ยังต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ จุดชนวนทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงิน และตลาดทุน รวมถึงเกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากประเทศตลาดเกิดใหม่ ส่งผลให้บางประเทศในแถบอาเซียนมีค่าเงินที่อ่อนลงอย่างมาก และยังต้องสูญเสียเงินสำรองระหว่างประเทศจนทำให้มีเหลือน้อยเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศ ซึ่งเป็นความเสี่ยงของการเกิดวิกฤติการเงินและวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นธุรกิจไทยจึงควรเฝ้าติดตามสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของคู่ค้า สำหรับไทย อีไอซีประเมินว่าการไหลออกของเงินทุน และการอ่อนค่าของเงินบาทจะไม่รุนแรง และไม่เป็นอุปสรรคต่อการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย.