สรุปข่าวประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2568
สรุปข่าวประจำวัน อพยพ 4 จว. : พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงว่า ได้เกิดการปะทะกับกำลังฝ่ายกัมพูชา ด้วยอาวุธปืนเล็ก บริเวณพิกัด VA 5417 8739 พื้นที่ ภูผาเหล็กพลาญหินแปดก้อน จังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มใช้อาวุธ ปืน ไร้แรงสะท้อน (ปรส.) ต่อมาในเวลา 14.50 น. การปะทะได้ยุติลง อย่างไรก็ตาม หน่วยในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน และมีแนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดำเนินการอพยพไปยัง ศูนย์พักพิงตามแผนอพยพประชาชน เพื่อความปลอดภัย
สรุปข่าวประจำวัน

ไทย ปะทะ กัมพูชา :
กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ปะทะ ทหารไทย-กัมพูชา ที่ ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน จังหวัดศรีสะเกษ หน่วย พัน.ร.13 (ฉก.1) ปะทะกับกำลังกัมพูชาด้วยอาวุธปืนเล็ก ส่งผลมีผู้บาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.อ.อนุชาติ เรือนคำ (ป.6 พัน.6) และมีการยิงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ฝ่ายกัมพูชาเริ่มใช้ อาวุธปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง ด้าน พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งหน่วย เตรียมพร้อมเต็มรูปแบบ และ ปฏิบัติตามกฎการปะทะ กระทั่ง การปะทะ ยุติลง หน่วยยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ และรักษาความพร้อมอย่างใกล้ชิด ลำเลียงผู้บาดเจ็บถึง บก.โดนเอาว์ จังหวัดศรีสะเกษเพื่อรักษาพยาบาลต่อ

ปะทะเดือด :
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาระอุอีกครั้ง หลังเกิดการปะทะ ของหารไทย-กัมพูชา ที่ ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน จังหวัดศรีสะเกษ ทหารไทย มีผู้บาดเจ็บ 2 นาย
ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพิ่งเดินทางไปชายแดน จ.บุรีรัมย์ เพื่อมอบนโยบายในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) พร้อมได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์
จับตา 8 ธ.ค. 68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ มีกำหนดนำคณะลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคง รวมถึงการจัดการพิทักษ์ส่วนหลัง และมาตรการรองรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง
คาดว่าจะมีการยกระดับการเตรียมพร้อมในพื้นที่อย่างเข้มงวด ภายหลังขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อพยพไปยัง ศูนย์พักพิงตามแผนอพยพประชาชน เพื่อความปลอดภัยแล้ว
คาดการณ์หุ้นไทย :
สัปดาห์ที่ 8-12 ธ.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,250 และ 1,230 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,285 และ 1,305 จุด ตามลำดับ สัปดาห์ ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นท่ามกลางแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบล. ทั้งนี้ SET Index ดีดตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ หลังสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้เริ่มคลี่คลายและรัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือ
คาดการณ์เงินบาท :
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 8-12 ธ.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.80-32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมและ Dot Plot ของเฟด ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ในมุมมองผู้บริโภคเดือนพ.ย. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ตัวเลขการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต

จัดมหกรรมธงฟ้า ใน 10 จังหวัดใต้ :
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่า ส่วนในระยะถัดไปด้านการฟื้นฟูและเยียวยา กระทรวงพาณิชย์จะจัดมหกรรมธงฟ้า นำสินค้าราคาประหยัดมาจำหน่าย โดยได้รับข้อมูลจากพาณิชย์จังหวัดว่ามีสินค้าใดที่เป็นที่ต้องการในพื้นที่บ้าง พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคการผลิต เข้ามาร่วมลดราคาสินค้า โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดในพื้นที่ 10 จังหวัด ไม่ใช่แค่พื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเท่านั้น รวมถึงยังอํานวยความสะดวกผู้ประกอบการที่ต้องการขอข้อมูล ขอใบคำร้อง เอกสารต่างๆ โดยสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ และได้รับความช่วยเหลือจากภาคเอกชน

อรรถกร แถลงพร้อมจัดซีเกมส์ :
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าวไฮไลท์พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ว่า แม้ว่าจะมีอุปสรรค และปัญหา ตั้งแต่วันที่ตนเองเข้ามาทำงาน แต่ขณะนี้ ยืนยันว่า เราสามารถจัดพิธีเปิดได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ต้องรู้สึกอายใคร และที่สำคัญที่สุดจะเป็นการประยุกต์ศิลปะ วัฒนธรรม เสน่ห์ของไทยจะมาโชว์ได้ในหลายมิติ พร้อมเน้นย้ำถึงแนวทางที่ตนเองอยากเห็นมาตลอด คือการเปิดโอกาสให้คนไทยที่มีฝีมือ และโปรโมทให้เพื่อนที่อยู่ ต่างประเทศได้ ในสถานการณ์ที่มีข้อจำกัดมากมาย
อินเดียคุมเข้มเพดานราคา :
รัฐบาลอินเดียประกาศมาตรการทางกฎหมายควบคุมราคาตั๋วเครื่องบิน หลังสายการบินอินดิโก (IndiGo) ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของประเทศ ยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ราคาตั๋วปรับสูงขึ้น กระทรวงการบินพลเรือนของรัฐบาลกลางออกคำสั่งไปยังสายการบินทุกแห่งให้ยึดตามเพดานค่าโดยสารที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อปกป้องผู้โดยสารจากการกำหนดราคาที่ไม่เหมาะสม กระทรวงฯ ระบุว่าจะติดตามระดับค่าโดยสารอย่างใกล้ชิดผ่านข้อมูลเรียลไทม์ และประสานงานกับสายการบินและแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งให้อินดิโกเร่งดำเนินการคืนเงินให้ผู้โดยสารโดยไม่ล่าช้า

ปักกิ่งเผยยอดเดินทางข้ามแดน :
สถานีตรวจคนเข้าเมืองของกรุงปักกิ่งได้บันทึกการเดินทางเข้า-ออกของผู้โดยสารผ่านสถานีฯ มากกว่า 20 ล้านครั้งในปี 2568 เมื่อนับถึงช่วงเช้าวันเสาร์ (6 ธ.ค.) ถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 โดยผู้โดยสารชาวต่างชาติคิดเป็น 30% ของตัวเลขข้างต้น สูงกว่าระดับทั้งปี 25674 ถึง 1.1 เท่า จำนวนการเดินทางข้ามแดนของชาวต่างชาติที่มากกว่า 6 ล้านครั้ง เมื่อนับถึงช่วงเช้าวันเสาร์ เพิ่มขึ้น 34.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยการเดินทางเข้าประเทศจีนราว 1.86 ล้านครั้งได้รับประโยชน์จากนโยบายยกเว้นวีซ่า ซึ่งสูงกว่าจำนวนที่บันทึกไว้ในปี 2567 ถึง 1.9 เท่า และคิดเป็น 60% ของการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติทั้งหมด ข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่า ผู้โดยสารต่างชาติเกือบครึ่งหนึ่งเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ส่วนที่เหลือเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือเยี่ยมเพื่อนหรือเยี่ยมญาติ
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้าฮ่องกงพุ่งแรง :
ฮ่องกงมีจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 15 และอีเวนต์ขนาดใหญ่ตลอดทั้งปี ซึ่ง โรซานนา ลอว์ เลขาธิการด้านวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนม.ค.–พ.ย. แตะ 45 ล้านคน สูงกว่ายอดรวมตลอดทั้งปี 2567 ลอว์ระบุว่า การเปิดให้บริการอุทยานกีฬาไคตั๊ก (Kai Tak Sports Park) ตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งรองรับการแข่งขันบางประเภทของกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 15 ช่วยยกระดับความเชื่อมั่นและเพิ่มศักยภาพของฮ่องกงในการเป็นเจ้าภาพอีเวนต์ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 15 ซึ่งกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊าร่วมเป็นเจ้าภาพ เปิดโอกาสเชื่อมโยงกีฬาเข้ากับการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของฮ่องกงจึงเร่งเปิดบริการทัวร์ในพื้นที่เขตอ่าวกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า


“แม่ชม-พ่อน็อต” :
ล่าสุด วันพ่อแห่งชาติที่ผ่านมา แม่ชม ก็ได้เตรียมพวงมาลัยให้ลูกเข้าไปกราบเท้า พ่อน็อต โดย น้องเกล สาวสุดท้องของบ้านยังได้กอดอ้อนคุณพ่ออีกด้วย จากนั้น แม่ชม ยังเผยภาพถ่ายคู่ พ่อน็อต นั่งเคียงคู่ใส่เสื้อของ น้องเกล พร้อมโพสท่าชิคๆ ตามสไตล์ให้ได้กดไลก์กันรัวๆ ซึ่งทาง พี่สายฟ้า ก็ได้เปียโนเป็นของตัวเอง ส่วน พี่พายุ ได้ลงสนามแข่งว่ายน้ำอย่างมีความสุข โดยภาพรวมมิตรเซ็ทนี้ แม่ชม เขียนแคปชั่นว่า “ปิดปีใหม่ได้ยัง” ทำเอาแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์กันสนั่นเลยทีเดียว

“เจนี่” เปิดใจ :
กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองอย่างมาก หลัง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ออกมาไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ เพื่อหารายได้เสริมหลังสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท จากกรณีโอนเงินให้ นานา ไรบีนา โดยเชื่อว่าจะร่วมลงทุนทำร้านอาหารที่นิวยอร์ก แต่ภายหลังพบว่าโครงการดังกล่าวไม่เกิดขึ้นจริง ระหว่างไลฟ์ เจนี่เปิดใจตอบคำถามของชาวเน็ตว่าเหตุใดเธอจึง “โดนน้อยกว่าคนอื่น” เจ้าตัวยอมรับตรงๆ ว่าเป็นเพราะ ตนเองไม่มีเงินมากอย่างที่หลายคนคิด พร้อมย้ำว่าหากเป็นแฟนคลับตัวจริงจะรู้ดีว่า เงินส่วนใหญ่ของเธออยู่กับคุณแม่ ทุกบาททุกสตางค์ตั้งแต่เข้าวงการ ไม่ได้ถือเงินก้อนใหญ่ไว้เอง
พระราชินี ฯ นำเรือวายุคว้าแชมป์รีกัสต้า :
สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันเรือใบ นานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน “ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 37 ประจำปี 2568 ในทีมเรือใบวายุ รุ่น ไออาร์ซี ซีโร (IRC Zero) หมายเลขใบเรือ THA72 เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยทรงทำหน้าเป็นเนวิเกเตอร์ หรือนักกลยุทธ์ของเรือ ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการบินจึงทรงทำให้สามารถคำนวณทิศทางลมอันแปรเปลี่ยนในทะเลได้อย่างแม่นยำ เพราะ หัวใจสำคัญของการแข่งขันกีฬาเรือใบ คือ ต้องใช้ลม เพื่อดันใบเรือให้แล่นไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยพระปรีชาสามารถ และพระวิริยะอุตสาหะ อีกทั้งยังทรงเป็นมิ่งขวัญและกำลังใจของสมาชิกบนเรือทุกคน จึงทำให้ เรือวายุเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ทั้ง 3 เรซ จาก 8 เรซ ของการแข่งขัน และทรงทำให้คะแนนรวมดีที่สุด
ผงาดคว้าแชมป์ :
ทัพเตะโต๊ะโค้งไทยคว้าแชมป์โลก 2 ประเภทในประเภทเดี่ยวหญิงจาก “หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง และประเภทคู่หญิงจาก “หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง กับ “นิด” สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ขณะที่ประเภทคู่ชายกับคู่ผสม พลาดโอกาสป้องกันแชมป์อย่างน่าเสียดาย ในศึกเทคบอลชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศโรมาเนีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เริ่มแล้ว! กฎหมายใหม่ลาคลอดยาว 4 เดือน


