สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 พ.ย. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และสภาพอากาศวันนี้ : บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง แต่ยังคงมีฝนในบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น
คาดการณ์ : วันที่ 20 – 23 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมในบริเวณภาคใต้
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 90% ของความจุเก็บกัก (72,157 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 83% (48,033 ล้าน ลบ.ม.)
แหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 16 แห่ง ดังนี้ ภาคกลาง 3 แห่ง ภาคตะวันออก 5 แห่ง ภาคตะวันตก 6 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่ง
3. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (18 พ.ย. 68) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงภาคใต้ ปี 2568 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมการประชุม ณ โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
จากการประเมินสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า ในช่วงวันที่ 18–23 พ.ย. 68 พื้นที่ภาคใต้จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับ
คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ และจากการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักล่วงหน้า 3 วัน (ช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. 68) พบว่า ในบางพื้นที่ของ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา และนราธิวาส จะมีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 200 มม. ดังนั้นในช่วงเวลาถัดจากนี้ไป พื้นที่ภาคใต้จะต้องเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ภาคใต้ เป็นภารกิจที่มีความท้าทาย เนื่องจากพื้นที่มีภูมิประเทศที่หลากหลายและได้รับอิทธิพลจากทั้งมรสุม-ตะวันตกเฉียงใต้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและพายุหมุนเขตร้อน ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภัยด้านน้ำหลายรูปแบบ ทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในเขตเมือง สทนช. ตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าวและให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมเชิงรุก โดยเน้นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย
การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และยกระดับศักยภาพของเจ้าหน้าที่และเครือข่ายบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้มีความพร้อมรับมือและลดความเสี่ยงจากสถานการณ์อุทกภัย พร้อมส่งเสริมการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรน้ำในระดับพื้นที่ รวมทั้งการร่วมถอดบทเรียนและจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อยกระดับการบริหารจัดการน้ำในภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 พ.ย. 68



