สรุปข่าวประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568
สรุปข่าวประจำวัน เยี่ยมทักษิณ : ครอบครัวชินวัตร เดินทางเข้าเยี่ยมทักษิณที่เรือนจำคลองเปรมในช่วงบ่ายวันที่ 17 พ.ย. พินทองทา เผยว่า ทักษิณเสียใจและเจ็บช้ำ หลังอัยการสูงสุดเตรียมยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 เธอยืนยันว่าหากยังไม่ได้รับความยุติธรรม ครอบครัวจะต้องสู้ต่อ พร้อมเป็นห่วงสภาพจิตใจของบิดา พานทองแท้ระบุ เหตุการณ์นี้ทำให้จิตตกพอสมควร แต่ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งถึงครอบครัว หลังให้สัมภาษณ์ ทั้งสามคนได้ออกไปทักทายประชาชนที่มาให้กำลังใจ ก่อนเดินทางกลับทันที
สรุปข่าวประจำวัน

พิพากษา ทักษิณจ่ายหุ้นภาษี 1.76 หมื่นล้าน :
ศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลาง (ศาลชั้นต้น) และศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ โดยศาลฎีกาเห็นว่า การประเมินภาษีของกรมสรรพากรในกรณีการขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของนายทักษิณ ชินวัตร กรมสรรพากรดำเนินการโดยชอบตามกฎหมาย ส่งผลให้กรมสรรพากรมีอำนาจจัดเก็บภาษี พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม รวมเป็นเงิน 1.76 หมื่นล้านบาท ตามหนังสือแจ้งภาษี ภ.ง.ด.12 ลงวันที่ 28 มี.ค. 2560

ตั้งบอร์ดใหม่ :
สถาบันพระปกเกล้า เปิดตัวคณะกรรมการบริหารหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข (สสสส.) ชุดใหม่ เพื่อประกาศทิศทางการยกระดับหลักสูตรครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นการทำงานเชิงพื้นที่ การแก้ปัญหาสังคมอย่างบูรณาการ และการสร้างเครือข่ายสันติสุขในระดับชาติ
ประกาศรายชื่อคณะกรรมการบริหารหลักสูตรชุดใหม่อย่างเป็นทางการ ได้แก่
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการหลักสูตร
พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาพิเศษเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหลักสูตร
ทั้งสองท่านเป็นผู้มีประสบการณ์ยาวนานด้านความมั่นคง การบริหารราชการ และการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งจะทำให้หลักสูตร สสสส. ก้าวสู่บทบาทใหม่ที่เข้มแข็งและตอบโจทย์ประเทศได้อย่างแท้จริง พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิอีก 19 ท่านที่จะร่วมวางยุทธศาสตร์และขับเคลื่อนหลักสูตรในระยะต่อไป
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (17 พ.ย. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิด 46,590.49 จุด ลดลง 556.99 จุด (1.18%) แนสแดก ปิดที่ 24,799.92 จุด ลดลง 208.32 จุด (0.83%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,672.50 จุด ลดลง 61.61 จุด (0.91%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,280.07 จุด เพิ่มขึ้น 10.81 จุด (0.85%) มูลค่า 33,899.70 ล้านบาท
ทองคำลง 50 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (17 พ.ย.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 62,650.00 บาท ขายออกบาทละ 62,750.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 61,398.00 บาท ขายออกบาทละ 63,550.00 บาท ราคาทองคำลง 50 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 16 พ.ย.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (17 พ.ย.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.5961 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.0767 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.9681 บาทต่อ 1 ยูโร, 21.2843 บาท ต่อ 100 เยน, 4.2139 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.2164 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.9534 ต่อ 1 ริกิ

‘เรือหลวงจักรีนฤเบศร’ งดการเข้าเยี่ยมชม :
กองเรือยุทธการ ประกาศ ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย สั่งให้ เรือหลวงจักรีนฤเบศร เข้าสู่สถานะ “เตรียมพร้อมปฏิบัติการ” หลังสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชามีแนวโน้มขยายวงและไม่อาจประเมินได้ เพื่อความปลอดภัยของกำลังพล ตลอดจนการป้องกันความลับทางยุทธศาสตร์ กองเรือยุทธการจึงมีคำสั่ง งดการเข้าเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นการชั่วคราว โดยมีผลทันที โดยเพจ เรือหลวงจักรีนฤเบศร official ตามที่ เรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้แจ้งให้พี่น้องประชาชน ทราบถึง กำหนดการเปิดเยี่ยมชมเรืออีกครั้งใน 14 พ.ย.68 นั้น ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้ความสนใจมาเยี่ยมชมในวันนี้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยและเป็นการรักษาความลับของทางราชการ ทางเรือจึงขอปิดการเยี่ยมชมเรือเป็นการชั่วคราว

รัฐบาลโชว์เบิกงบกระตุ้นเศรษฐกิจแตะ 5.7 หมื่นล้าน :
นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงบประมาณ เผยติดตามความก้าวหน้าของการเบิกจ่ายอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้สำนักงบประมาณแจ้งส่วนราชการทุกหน่วยเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 และงบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 โดยเน้นให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า สำหรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 วงเงิน 157,000 ล้านบาท ซึ่งปรับเปลี่ยนจากงบเดิมของโครงการ Digital Wallet ได้รับการจัดสรรจริง 131,141 ล้านบาท และได้มีการเบิกจ่ายแล้ว 57,166 ล้านบาท คงเหลือ 73,974 ล้านบาท โดยมีการลงนามในสัญญาแล้วกว่า 52,000 ล้านบาท ขณะที่ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง

ปลดล็อกขายเหล้า-เบียร์ :
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุถึงประเด็นที่บอร์ดแอลกอฮอล์ปลดล็อกขายเหล้า-เบียร์ ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. ว่า มาตรการผ่อนปรนช่วงเวลาจำหน่ายแอลกอฮอล์อาจช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันปลายปี ผู้ประกอบการสามารถให้บริการได้คล่องตัวขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกและความพึงพอใจมากขึ้น ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยสนับสนุนรายได้ของภาคบริการ ภาคท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 14.00–17.00 น. เป็นเวลาทำงานของหลายภาคส่วน การเปิดจำหน่ายในระหว่างนี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านวินัยการทำงาน หากพนักงานบางส่วนใช้เวลาไม่เหมาะสมจนกระทบต่อประสิทธิภาพ ประเด็นเหล่านี้จึงควรถูกประเมินและจัดการอย่างรอบคอบ
ดังนั้น องค์กรต่างๆ อาจกำหนดกฎระเบียบภายในที่ชัดเจนเพื่อสร้างวินัยและความรับผิดชอบ เช่น การสื่อสารนโยบายให้เข้าใจตรงกัน การกำหนดแนวปฏิบัติที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการตรวจสอบที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละองค์กร
ขณะเดียวกัน ภาครัฐและผู้ประกอบการ ควรให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น การป้องกันการดื่มแล้วขับ และการส่งเสริมการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเติบโตควบคู่กับความปลอดภัยของสังคม

ฮุน เซน ทำเสื้อเกราะ :
ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ประกาศแผนการผลิตเสื้อเกราะป้องกันสำหรับกองทัพกัมพูชา พร้อมความเป็นไปได้ในการส่งออกไปยังต่างประเทศหากมีการสั่งซื้อ สมเด็จฮุน เซน ยืนยันว่า เสื้อเกราะป้องกันที่กัมพูชาจะผลิตนั้นใช้ตราสินค้า “DSS” และสมเด็จเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเสื้อเกราะป้องกันแห่งนี้ “เร็วๆ นี้จะมีการผลิตเสื้อเกราะป้องกันยี่ห้อ DSS สำหรับกองทัพของเรา และยังสามารถส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ได้หากมีการสั่งซื้อ ตราสินค้านี้คือ DSS และผมเป็นเจ้าของ” สมเด็จเตโชกล่าวเน้นย้ำ ขณะเดียวกัน สมเด็จฮุน เซน ยอมรับถึงช่องว่างก่อนหน้านี้ของกัมพูชาในการจัดหาเสื้อเกราะป้องกันและหมวกป้องกันสำหรับทหารในเหตุการณ์ติดอาวุธตามแนวชายแดนไทย เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้คาดการณ์สถานการณ์สงคราม อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตว่าขณะนี้กองกำลังทหารกัมพูชามีเกราะและอุปกรณ์ป้องกันที่เพียงพอแล้ว
ไต้หวันเตรียมแจกคู่มือป้องกันตนเอง :
ไต้หวันเตรียมแจกจ่ายคู่มือป้องกันตนเองฉบับพลเรือนแก่ทุกครัวเรือนในสัปดาห์นี้ นับเป็นความพยายามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่อาจถูกจีนโจมตี คู่มือดังกล่าวเปิดตัวเมื่อเดือนก.ย. และถือเป็นครั้งแรกที่มีการรวบรวมคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรปฏิบัติหากพลเมืองเผชิญหน้ากับทหารของศัตรู พร้อมกับเน้นย้ำว่าข้ออ้างใด ๆ ที่ระบุว่าไต้หวันยอมจำนนนั้น ให้ถือว่าเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด คู่มือฉบับนี้ระบุถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไต้หวันอาจต้องเผชิญ ตั้งแต่การก่อวินาศกรรมสายเคเบิลใต้ทะเล การโจมตีทางไซเบอร์ การที่ “ชาติศัตรู” เข้าตรวจค้นเรือของไต้หวัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกล่วงหน้าว่าความขัดแย้งกำลังจะปะทุขึ้น
จีนลงทุนสร้างทางรถไฟโต 5.7% :
บริษัท การรถไฟแห่งประเทศจีน จำกัด รายงานว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรด้านทางรถไฟของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค. 2568 รวมอยู่ที่ 6.71 แสนล้านหยวน (ราว 3.05 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบปีต่อปี รายงานระบุว่า การลงทุนด้านทางรถไฟมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการลงทุน รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีคุณภาพสูง โดยในปีนี้ บริษัทได้เดินหน้าวางแผนและก่อสร้างทางรถไฟอย่างเป็นระบบ เร่งก่อสร้างเครือข่ายทางรถไฟสมัยใหม่ระดับโลก เพิ่มการเข้าถึงและความครอบคลุม ตลอดจนส่งเสริมการเชื่อมต่อในระดับภูมิภาค

ทรัมป์กลับลำ :
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกร่วมพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส ลงมติสนับสนุนการเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักการเงินผู้ล่วงลับ ในคดีอื้อฉาวทางเพศ นับว่าเป็นการเปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเดิมที่เคยคัดค้านเรื่องนี้มาตลอด ก่อนหน้านี้ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เขาเชื่อมั่นว่าการลงมติให้เปิดเผยเอกสารของกระทรวงยุติธรรมในคดีเอปสตีน จะช่วยสยบข้อครหาทั้งปวงที่ว่าทรัมป์มีส่วนพัวพันกับการล่วงละเมิดและค้าประเวณีเด็กหญิงของเอปสตีน ทรัมป์เคยโต้ว่าประเด็นเอกสารเอปสตีนเป็นเพียงเกมการเมืองสกปรกของพรรคเดโมแครต และได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการสืบสวนความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองคนสำคัญของพรรคเดโมแครตกับเอปสตีนเป็นการตอบโต้

“เปิ้ล นาคร” แอดมิทด่วน :
นักแสดงและจิตอาสาชื่อดัง เปิ้ล นาคร แอดมิตเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน จากอาการกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง สาเหตุเพราะเจ้าตัวใช้ร่างกายหนักต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ทั้งการลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2 สัปดาห์รวด และยังพาลูก ๆ ไปซ้อมเจ็ตสกีต่ออีก 2 วันติดแบบไม่พักเลยแม้แต่นาทีเดียว โดยเปิ้ล นาคร ได้โพสต์ภาพขณะกำลังแอดมิตอยู่ที่โรงพยาบาล ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ple_nakorn หลังโพสต์ถูกเผยแพร่ เหล่าคนบันเทิงและแฟนคลับต่างเข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจ

“โบว์ เมลดา” เล่าประสบการณ์ระทึก :
นางเอกสาว โบว์ เมลดา แชร์ประสบการณ์เป็น อุทาหรณ์การใช้ชีวิตต่างแดน หลังไปเรียนที่อังกฤษและเกือบประสบเหตุอันตรายจากการไม่เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น โบว์เล่าว่า ด้วยความเป็นคนไทย มักยิ้มตอบเมื่อมีคนสบตา แต่ที่อังกฤษครูเตือนว่าโดยทั่วไปผู้คนจะไม่สบตาหรือทักทายคนแปลกหน้าในพื้นที่สาธารณะ การยิ้มให้คนที่ไม่คุ้นเคยอาจถูกตีความผิดได้ แต่ด้วยความที่วันนั้น โบว์ไปส่งอาเล็ก ธีรเดช และลืมใส่แหวนกลับบ้าน ระหว่างเดินทางมีชายแปลกหน้า 3 คนเข้ามาประกบ สถานการณ์เริ่มน่ากลัวแต่โบว์ตั้งสติ โชว์ไหวพริบด้วยการหยิบมือถือและเปลี่ยนหน้าจอเป็นรูปคู่กับอาเล็ก จากนั้นแกล้งโชว์ให้อีกฝ่ายเห็น เพื่อให้เข้าใจว่ามีคนรักแล้ว ผลปรากฏว่าอีกฝ่ายถอยออกไป ทำให้เธอปลอดภัยในทันที
คว้าทองกรีฑายุวชนอาเซียน :
กชกร หามาจ้ำ นักขว้างค้อนสาวไทย คว้าเหรียญทองจากอีเวนต์ขว้างค้อนหญิงรุ่นยุวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ในการแข่งขันกรีฑายุวชนยู-18 และเยาวชนยู-20 ชิงแชมป์อาเซียนที่ประเทศอินโดนีเซีย นับเป็นเหรียญทองที่ 4 ของทัพกรีฑาวัยกระเตาะไทยในรายการนี้
ยืนยันดวลหมัด :
แอนโธนี่ โจชัว ยืนยันดวลหมัดกับ เจค พอล กลางเดือนธ.ค.นี้ที่ไมอามี่ ดินแดนมะกันแน่นอน ขณะที่นักมวยอินฟลูเอ็นเซอร์ โวลั่นจะจัดการส่งยักษ์โกไลแอธแห่งสหราชอาณาจักรหลับคาเวที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปชป.เปิดแคมเปญ ฟ้าใหม่ไล่เมฆเทา เตรียมยื่นหลักฐาน ‘ธุรกรรมการเงิน’ มีเทา


