สรุปข่าวประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568
สรุปข่าวประจำวัน อนุทิน เมิน ภาษีทรัมป์ : นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า “วันนี้ประเทศไทยต้องยึดผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนคนไทยเท่านั้น ตรงนี้มีความชัดเจนแล้ว ตนจึงบอกว่าเดี๋ยวเจรจาการค้าภาษีเป็นอย่างไร ไม่สนแล้ว หากขายประเทศนี้ไม่ได้ ก็ไปหาประเทศอื่น ภาคเอกชนต้องช่วยกัน เราจะเอาชีวิตไปฝากไว้กับประเทศประเทศเดียวได้อย่างไร ภาคเอกชนเข้าใจเรื่องนี้ดี ส่วนนี้ปิดไปไม่เป็นไร ไปหาที่อื่นได้ ใช้ภาษีมากดดันเราก็ไม่เป็นไร เพราะประเทศอื่นก็โดนผลกระทบเรื่องภาษีเหมือนกัน เราต้องมานั่งคุยกันเองท้ายที่สุดแล้วหากภาษีสูงมากจนถึง 100% ท้ายที่สุดผู้เดือดร้อนก็คือผู้ซื้อเราเป็นผู้ผลิตเราก็ต้องมา หันมาซื้อของในบ้านเราให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราต้องอยู่ให้ได้ในยุคที่สร้างศักยภาพให้กับตนเอง”
สรุปข่าวประจำวัน

ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด :
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2568 เกิดกรณีทหารเขมรยิงปืนยั่วยุทหารไทย โดยทหารไทยได้ตอบโต้ไปเล็กน้อย แต่มีข่าวว่าส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน
นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา โพสต์ Facebook ประณามการกระทำของทหารไทย โดยระบุว่าทผู้ที่เสียชีวิตนั้น คือพลเรือนผู้บริสุทธิ์ จึงขอให้ฝ่ายไทยหยุดกระทำพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความรุนแรง
สถานการณ์นี้ ดูเหมือนจะตึงเครียดไปในช่วงระยะนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะไม่แน่ว่าอาจจะเกิดการประทะกันอีกครั้งเหมือนในช่วงเดือนก.ค. ที่ผ่านมา

ไทยยิงโต้เขมร :
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพาว่า เกิดเหตุทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากนั้น ฝ่ายไทยได้เข้าแนวกำบัง และได้ทำการยิงแจ้งเตือนไปยังจุดที่มีการยิงเข้ามา ตามกฎการใช้กำลัง เหตุการณ์ทั้งหมดกินเวลาประมาณ 10 นาทีจึงสงบลง ทั้งนี้ ฝ่ายไทยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รายละเอียดอื่น ๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (12 พ.ย. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิด 48,255.07 จุด เพิ่มขึ้น 327.11 จุด (0.68%) แนสแดก ปิดที่ 25,517.33 จุด ลดลง 16.16 จุด (0.06%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,851.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด (0.06%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,284.81 จุด ลดลง 15.66 จุด (1.20%) มูลค่า 38,898.51 ล้านบาท
ทองคำลง 100 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (12 พ.ย.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 63,300.00 บาท ขายออกบาทละ 63,400.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 62,034.72 บาท ขายออกบาทละ 64,200.00 บาท ราคาทองคำลง 100 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 11 พ.ย.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (12 พ.ย.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.6180 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.0677 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.9235 บาทต่อ 1 ยูโร, 21.3391 บาท ต่อ 100 เยน, 4.2132 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.1959 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.9790 ต่อ 1 ริกิ

ตรึงราคาผักชีปลายฤดูฝน :
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า “กรมการค้าภายใน ได้ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายผักในตลาดช่วงปลายฤดูฝน พบว่า “ผักชี” เป็นผักที่มีราคาจำหน่ายปรับสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยราคาผักชีเกรดดีที่มีความสมบูรณ์เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 250 บาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ราวกิโลกรัมละ 130 บาท) ขณะที่ผักชีเกรดรอง ซึ่งได้รับความเสียหายบางส่วนจากฝนตก ยังคงมีจำหน่ายในตลาดในราคาประมาณ 130 บาทต่อกิโลกรัม โดยกรมการค้าภายใน ได้เร่งดำเนินการประสานความร่วมมือกับสมาคมตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทยและภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตจากแหล่งปลูกอื่นเข้าทดแทนในตลาด และลดความตึงตัวของราคา คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า เมื่อผลผลิตจากแหล่งใหม่ทยอยออกสู่ตลาด ราคาผักชีจะเริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

กัมพูชาดับ 1 :
ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขอประณามการใช้ความรุนแรงข้างไทยต่อพลเรือนกัมพูชาที่บริสุทธิ์ในหมู่บ้านเปรยจันทร์ เมื่อเย็นวันที่ 12 พ.ย.68 ซึ่งทําให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ชาวกัมพูชาได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย การกระทํานี้ขัดต่อจิตวิญญาณด้านมนุษยธรรมและมติในอดีตในการแก้ไขพรมแดนอย่างสันติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอนุมัติของกลไก JBC
นายกฯ เวียดนามสั่งออกมาตรการด่วน :
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนาม สั่งการธนาคารกลางเวียดนามให้เร่งศึกษาและจัดทำมาตรการสินเชื่อพิเศษเพื่อสนับสนุนประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและผลพวงของพายุไต้ฝุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าว Voice of Vietnam รายงานว่า นายกฯ เวียดนามเน้นย้ำให้ทางการท้องถิ่นในจังหวัดและเมืองทางภาคกลางและภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ประเมินและรวบรวมรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุไต้ฝุ่นเฟิงเฉิน (Fengshen) และคัลแมกี (Kalmaegi) ในช่วงปลายเดือนต.ค.ถึงต้นเดือนพ.ย. นอกจากนี้ นายกฯ เวียดนามยังขอให้ทางการท้องถิ่นระดมกำลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการบูรณะซ่อมแซมบ้านเรือน โดยตั้งเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ เพื่อที่ประชาชนจะได้มีบ้านใหม่ฉลองเทศกาลปีใหม่
ไต้หวันเร่งอพยพปชช.ลี้ภัยไต้ฝุ่น “ฟงวอง” :
ไต้หวันสั่งอพยพประชาชนกว่า 8,300 ชีวิต ก่อนไต้ฝุ่น “ฟงวอง” เคลื่อนตัวถึงในวานนี้ (12 พ.ย.) หลังพายุลูกดังกล่าวได้หอบเอาปริมาณน้ำฝนที่สูงเป็นประวัติการณ์ถล่มบริเวณชายฝั่งตะวันออกที่เป็นพื้นที่ภูเขา และทำให้เกิดน้ำท่วมสูงถึงระดับคอในบางพื้นที่ ส่งผลให้ธุรกิจและโรงเรียนในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนใต้ของเกาะต้องปิดทำการ โดยมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 51 ราย รายงานข่าวระบุว่า เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ของเขตอี๋หลานทางตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชนบท โดยระดับน้ำท่วมสูงถึงคอ ขณะที่ทหารเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ยังคงติดค้างอยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นฟงวองคาดว่าจะเคลื่อนผ่านดินแดนปลายสุดทางใต้ของไต้หวันในวานนี้ (12 พ.ย.) ก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากที่พายุได้พัดผ่านฟิลิปปินส์และคร่าชีวิตผู้คนไป 27 ราย พายุก็ได้อ่อนกำลังลงอย่างมาก
รมว.คลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณแทรกแซงค่าเงิน :
ซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินเยนในตลาดปริวรรตเงินตราปรากฏผลกระทบด้านลบชัดเจนมากขึ้น นับเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงการแทรกแซงตลาด หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน คาตายามะกล่าวในระหว่างการประชุมรัฐสภาว่า “แม้ความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนจะส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบต่อเศรษฐกิจ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลกระทบด้านลบเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้น” เงินเยนได้รับแรงกดดันส่วนหนึ่งจากมุมมองของตลาดที่ว่า เป็นเรื่องยากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ภายใต้การบริหารประเทศของทาคาอิจิ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

2 สมาชิกวง NewJeans ประกาศกลับร่วมค่ายเดิม :
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองได้หารืออย่างรอบคอบกับครอบครัว โดยทั้งคู่เลือกที่จะเคารพคำตัดสินของศาล และปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับค่าย ADOR อย่างครบถ้วน ต้นสังกัดได้เน้นย้ำว่า “เราจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อสนับสนุนแฮรินและฮเยอิน” และขอความร่วมมือจากแฟนๆ ให้หลีกเลี่ยงการคาดเดาหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ยังคงไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับสมาชิกอีก 3 คน ได้แก่ มินจี, ฮันนิ และ ดาเนียล ว่าจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของพวกเธออย่างไรต่อไป

ติ๊กต็อกเตือน :
กำลังเป็นที่โด่งดังขวัญใจพี่ป้าน้าอาสุดๆ หลัง โมเน่ ลูกสาวของ เมย์ พรีมายา อินฟลูเอนเซอร์รุ่นจิ๋วที่มักจะออกมาไลฟ์ขายของในติ๊กต็อกจนมีแฟนๆเข้ามาชมเป็นจำนวนมากทุกครั้งที่ปรากฏตัว แต่ล่าสุดถูกทางแพลตฟอร์มสายตรงให้ “หยุดขายสินค้า” เนื่องจากเป็น “ผู้เยาว์” ตามข้อกำหนดของระบบ โดยล่าสุด เมย์ พรีมายา โพสต์แจ้งผ่านโซเชียลว่า “เจ้าหน้าที่ติ๊กต็อกโทรหาแม่แล้ว บอกเด็กห้ามขายของ” พร้อมเผยในไลฟ์ของโมเน่ว่า “ติ๊กต็อกโทรมาบอกว่าเด็กขายของไม่ได้” พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า “วันนี้ติ๊กต็อกโทรหาบอกห้ามขายของแล้วนะ” หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวโซเชียลต่างพากันคอมเมนต์แซวและให้กำลังใจ บ้างบอกว่า “จบกันเสาหลักของบ้าน” ดับฝันบ้าน 5 หลังของน้องโมเน่ 5555
ตอบแทนผลงาน :
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบเงินรางวัลรวม 344 ล้านบาท ให้แก่นักกีฬาไทยและสมาคมกีฬาที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมจาก 4 มหกรรมกีฬาระดับโลกและนานาชาติ ได้แก่ มหกรรมกีฬาเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 12 ณ นครเฉิงตู ประเทศจีน, มหกรรมกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 32 ณ เมืองไรน์–รูห์ร เยอรมนี, มหกรรมกีฬาเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ณ เมืองมานามา ประเทศบาเรนห์ และมหกรรมกีฬา World Transplant Games 2025 ณ เมืองเดรสเดน เยอรมนี
ลอยลำรอบ 2 :
“บาส-เฟม” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่ผสมมือ 1 ไทย ดีกรีแชมป์เก่า ปิดเกมอย่างรวดเร็วเอาชนะ ฮารุกิ คาวาเบะ กับ โกโกนะ อิชิกาวา จากญี่ปุ่น 2-0 เกม ผ่านเข้ารอบ 2 แบดมินตันมาสเตอร์ส เจแปน 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่น
ฟอร์มหวด :
นักกอล์ฟหญิงไทย 5 คน ได้แก่ ปภังกร ธวัชธนกิจ, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, อาภิชญา ยุบล, พรอนงค์ เพชรล้ำ และ ธิฎาภา สุวัณณะปุระ พร้อมลงแข่งขันในศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ “ดิ แอนนิก้า ไดร์เว่น บาย เกนบริดจ์ แอธ เพลิแกน” ชิงเงินรางวัลรวม 3.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 105.3 ล้านบาท) แข่งขันระหว่างวันที่ 13–16 พ.ย. 2568 ที่สนาม เพลิแคน กอล์ฟ คลับ เมืองเบลล์แอร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นรายการ สุดท้ายของฤดูกาลปกติ ก่อนจะนำเอา 60 อันดับแรกในคะแนนสะสม เรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบ เข้าร่วมศึก ทัวร์ กรุ๊ป แชมเปียนชิพ ที่เมืองเนเพิลส์ในสัปดาห์ถัดไป อีกทั้งยังเป็นโอกาสสุดท้ายที่นักกอล์ฟหลายคนต้องทำผลงานให้ดี เพื่อรักษาอันดับท็อป 100 และคว้าทัวร์คาร์ดแบบฟูลในฤดูกาลหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดภาพ F-16 สแตนบาย 24 ชั่วโมง


