สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ต.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.นครสวรรค์ (141 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.นครราชสีมา (55 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (75 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (89 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (75 มม.) ภาคใต้ : จ.นครศรีธรรมราช (124 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยเริ่มมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และตาก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 3 – 5 ต.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย
2. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 1 ต.ค. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 10 จ. 17 อ. ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน (อ.แม่สะเรียง และสบเมย) จ.เลย (อ.วังสะพุง เมืองฯ ภูเรือ และภูหลวง) จ.พิษณุโลก (อ.ชาติตระการ) จ.อุตรดิตถ์ (อ.ทองแสนขัน น้ำปาด และท่าปลา) จ.ขอนแก่น (อ.น้ำพอง) จ.หนองบัวลำภู (อ.โนนสัง) จ.มหาสารคาม (อ.พยัคฆภูมิพิสัย) จ.สุรินทร์ (อ.สังขะ) จ.นครราชสีมา (อ.คง) และจ.ปราจีนบุรี (อ.นาดี และประจันตคาม)
3.ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 24/2568 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาจากกรมอุทกศาสตร์ โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียงในระหว่างวันที่ 3 – 6 ต.ค. 68 เวลาประมาณ 16.00 – 18.00 น. เป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียงอาจมีความสูงประมาณ 1.70 – 1.90 ม. จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 ม. เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อน ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำจะเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม เนื่องจากน้ำทะเลหนุน บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) บริเวณจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม
4.ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (1 ต.ค. 68) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับคณะผู้บริหารสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายภราดร เปิดเผยว่า ด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำของประเทศ เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสมในลุ่มน้ำต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก จากอิทธิพลของพายุหลายลูกติดต่อกัน ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดปัญหาอุทกภัยสร้างความเสียหายต่อประชาชน จึงได้มอบหมายให้มีการติดตามสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเร่งด่วน พร้อมหารือร่วมกับ สทนช. เกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงเดือนตุลาคม เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) คาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำ รวมถึงขณะนี้เขื่อนสิริกิติ์มีความเสี่ยงน้ำล้น จึงต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำและอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน และมวลน้ำจากพื้นที่ตอนบนของประเทศจะไหลลงมาสมทบกับปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องเพิ่มการระบายน้ำ และอาจส่งผลกระทบเพิ่มต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จึงได้เน้นย้ำให้ สทนช. ประสานกรมชลประทานเพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด โดยให้พิจารณาผันน้ำเข้าสู่ทุ่งที่เก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ และต้องไม่กระทบต่อพื้นที่ชุมชน รวมถึงให้ติดตามข้อมูลคาดการณ์สภาพอากาศและปริมาณฝนที่จะตกเพิ่มในช่วงนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจบริหารจัดการน้ำ ทั้งในพื้นที่เหนือและใต้เขื่อนเจ้าพระยา ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง พร้อมทั้งปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนแต่ละแห่งให้สอดคล้องกัน เพื่อรักษาโครงสร้างเขื่อนให้มั่นคง และลดผลกระทบให้เกิดแก่ประชาชนในทุกพื้นที่น้อยที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 1 ต.ค. 68