สรุปข่าวประจำวันที่ 5 กันยายน 2568

สรุปข่าวประจำวัน จับตาการเมือง : 5 ก.ย. 2568 บันทึกไว้อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะจะเป็นวันที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย
สรุปข่าวประจำวัน
ถ้าไม่มีอะไรผิดคาด เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
แม้พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อแข่ง โดย มีโปรโมชั่นล่อใจ ให้นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีและประกาศยุบสภาในทันที
แต่พรรคประชาชน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญได้ตัดสินใจแล้วว่า จะโหวตให้นายอนุทิน ดังนั้น เพื่อไทยจึงหมดสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
รัฐบาลที่นำโดยนายอนุทินนี้ จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีเวลาทำงานอยู่ไม่เกินสี่เดือน จากนั้นจะยุบสภาประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่

ชัยเกษม เสนอยุบสภาทันที :
นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน และหากกระผมได้รับการลงคะแนน ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันที โดยไม่ต้องรอเวลาถึง 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน เข้าสู่การเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยต่อไป “กระผมขอยืนยันอีกครั้งว่า นี่คือสัญญาที่ทำไว้ต่อพี่น้องประชาชน และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล จะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้โดยไม่มีข้อเปลี่ยนแปลง ไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมใดๆ”

รับแล้วถูกตีกลับยุบสภา :
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรและส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด

‘ทักษิณ’บินออกนอกประเทศ :
ส่อหนีคุกอีก! “ทักษิณ” บินไปสิงคโปร์ พร้อมครอบครัว 5 คน ตม.ยอมปล่อยเหตุศาลไม่ได้ห้าม คนใกล้ชิดอ้างไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจร่างกาย ยันจะกลับ 5 ก.ย.เพื่อฟังคำวินิจฉัยคดีชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย.นี้
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (4 ก.ย. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 45,621.29 จุด เพิ่มขึ้น 350.06 จุด (0.77%) แนสแดก ปิดที่ 23,633.01 จุด เพิ่มขึ้น 218.17 จุด (0.93%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,502.08 จุด เพิ่มขึ้น 53.82 จุด (0.83%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,252.55 จุด ลดลง 6.76 จุด (0.54%) มูลค่า 44,813.45 ล้านบาท
ทองคำขึ้น 100 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (4 ก.ย.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 54,050.00 บาท ขายออกบาทละ 54,150 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 52,969.04 บาท ขายออกบาทละ 54,950.00 บาท ราคาทองคำขึ้น 100 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 3 ก.ย.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (4 ก.ย.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.4643 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.7687 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.9949 บาทต่อ 1 ยูโร, 22.0870 บาท ต่อ 100 เยน, 4.1761 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.3398 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.7521 ต่อ 1 ริกิต

แม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่ชายแดน :
พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่หมู่ 3 ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา และพบปะพูดคุยกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ติดตามการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะกรณีชาวกัมพูชาเข้ามารุกล้ำที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในแผน พร้อมทั้งเร่งรัดการทวงคืนพื้นที่ให้กับประชาชน พลโท อมฤต ได้กล่าวขอบคุณชรบ.ที่ช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน และยืนยันว่ากองทัพจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนตามกรอบที่กำหนด เพื่อรักษาความมั่นคงและสิทธิของประชาชนในพื้นที่
รฟท.ไม่เลื่อนพบดีเอสไอปมเขากระโดง :
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจงกรณีที่สื่อมวลชนรายงานข่าวว่า การรถไฟฯ เลื่อนการเข้าให้ถ้อยคำต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในฐานะผู้ร้องทุกข์/กล่าวโทษ กรณีที่ดินเขากระโดงนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด คณะพนักงานสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้กำหนดนัดหมายให้การรถไฟฯ มาให้ถ้อยคำในวันที่ 5 ก.ย. 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดังนั้น การรถไฟฯ จะเดินทางไปตามกำหนดนัดหมายที่ระบุไว้ในหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป

หวังรัฐบาลใหม่ทำเพื่อส่วนรวม :
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริษัท ซินเน็ค จำกัด อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า คงคาดหวังอะไรไม่ได้มากกับรัฐบาลใหม่ เพียงแต่ขอให้มองเรื่องผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก โดยในเรื่องของเศรษฐกิจก็ต้องการให้มีสเถียรภาพ ซึ่งจะต้องเริ่มต้นจากการเมืองที่สเถียรภาพ โดยเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ดี หากผู้เข้าทำงานบริหารประเทศมีความตั้งใจร่วมมือกันทำงานเพื่อประชาชนจริงจะเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก และจะทำให้เศรษฐกิจ และประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญก็คือ ข้าราชการต้องให้ความร่วมมือ อย่ามองเพียงแค่ว่ารัฐบาลเข้ามาชั่วคราวแล้วหมดวาระก็มีการปรับเปลี่ยน หากรัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยเหลือ และขับเคลื่อนจริง ไม่ใช่มาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง หรือทำลายคู่แข่ง
แน่นอนว่าระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือนของรัฐบาลนั้นน้อยมาก แต่ก็สามารถวางกรอบนโยบายที่ดีขึ้นมาได้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการบริหารประเทศอย่างแท้จริง ทำงานอย่างจริงจังโดยที่ไม่ได้สนใจจะรักษาผลประโยชน์ของตนเอง แต่นำปัญหาของเอกชนและประชาชนมาพิจารณา
แม้จะมีรัฐบาลที่เข้มแข็งในระยะสั้นก็ต้องรีบดำเนินการ เพราะสามารถสั่งการได้ เนื่องจากบางเรื่องมีหลายกระทรวงเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีการร่วมมือช่วยกันก็จะทำให้เป็นไปได้เร็วมากขึ้น จากเดิมที่มีคนละพรรค คนละพวกทำให้ไม่สามารถเดินหน้านโยบายได้ โดยมองว่าน่าจะดีกว่ารัฐบาลที่ไม่เข้มแข็งแต่อยู่ยาวซึ่งทำอะไรไม่ค่อยได้
แบงก์ชาติมาเลย์มีมติคงดอกเบี้ยที่ 2.75% :
ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายข้ามคืน (OPR) ไว้ที่ 2.75% ในการประชุมวานนี้ (4 ก.ย.) ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งก่อนเมื่อเดือนก.ค. BNM ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี แถลงการณ์ของ BNM ระบุว่า ท่าทีด้านนโยบายการเงินในปัจจุบันนั้น “เหมาะสมและเอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ท่ามกลางเสถียรภาพด้านราคา” พร้อมอธิบายว่าการลดดอกเบี้ยเมื่อเดือนก.ค. นั้นเป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อประคองแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
อินเดียสู้ศึกทรัมป์ :
อินเดียประกาศลดภาษีอุปกรณ์พลังงานสะอาดลงกว่าครึ่งหนึ่งสำหรับการขายในประเทศ เพื่อกระตุ้นความต้องการภายในประเทศ และลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยกระทรวงการคลังระบุว่า ภาษีสินค้าและบริการ (GST) สำหรับอุปกรณ์พลังงานสะอาด เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ชิ้นส่วนกังหันลมและโรงผลิตก๊าซชีวภาพ ถูกปรับลงจาก 12% เหลือ 5% ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้ผู้บริโภคและเร่งการติดตั้งโครงการพลังงานสะอาดมากขึ้น การปรับลดภาษีดังกล่าวน่าจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. ซึ่งตรงกับช่วงที่อินเดียกำลังพยายามติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศสำหรับปี 2573 และปีต่อ ๆ ไป
เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตร-ป่าไม้-ประมง :
กระทรวงเกษตรและสิ่งแวดล้อมของเวียดนามรายงานว่า เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้ และประมงอยู่ที่ 4.537 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รายงานระบุว่า สินค้าเกษตรครองสัดส่วนมากที่สุด โดยมีมูลค่าการส่งออกรวม 2.442 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.8% เมื่อเทียบรายปี ผลิตภัณฑ์ป่าไม้มีมูลค่าส่งออก 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.6% ขณะที่ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์พุ่งขึ้น 24.5% สู่ระดับ 410.7 ล้านดอลลาร์ ส่วนยอดส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเพิ่มขึ้น 11.5% สู่ระดับ 7.03 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ เอเชียยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยครองสัดส่วน 43.1% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

“เพชร สหรัตน์” ทำเซอร์ไพรส์ :
กลายเป็นข่าวฮือฮาในวงการบันเทิง เมื่อศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง เพชร สหรัตน์ จัดเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ มอบรถยนต์ป้ายแดงคันหรู BMW ให้ตลกซุปตาร์รุ่นใหญ่ หม่ำ จ๊กมก ท่ามกลางเสียงปรบมือและบรรยากาศสุดอบอุ่น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้มีแค่ความสนิทสนมในฐานะพี่น้องร่วมวงการเท่านั้น แต่ยังจับมือทำธุรกิจร่วมกัน เพชร สหรัตน์ เป็นคนดูแลกิจการสินค้ายี่ห้อหม่ำแซ่บให้ หม่ำ จ๊กมก ในด้านบันเทิงและโปรเจกต์ต่างๆ จนยิ่งทำให้โมเมนต์นี้มีความหมายมากกว่าแค่การมอบของขวัญธรรมดา งานนี้บอกเลยว่า รถป้ายแดงคันนี้ไม่ได้มีค่าเพียงแค่ตัวเลข แต่สะท้อนถึงมิตรภาพและความไว้วางใจที่ทั้งคู่มีให้กันแบบไม่มีเงื่อนไข และงานนี้แอบส่องเลขทะเบียนรถป้ายแดงสวยๆ มาให้ คือ 8530

“เบนซ์ เรซซิ่ง” เงียบมานาน :
ออกปากบอกเองเลยว่า เงียบมานาน สำหรับ เบนซ์-อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง จนต้องขออนุญาตออกความคิดเห็นบ้าง โดย เบนซ์ เรซซิ่ง ได้โพสต์ข้อความไว้ว่า “เงียบมานาน ขออนุญาตออกความคิดเห็นบ้างนะครับ ส่วนตัวบอกเลยยังไงก็ ยุบไม่ได้..!! ถ้ายังไม่เลิกกินหมูกระทะ ยังไงพุงก็ ยุบไม่ได้” พร้อมกับแนบรูปตนเองกำลังกินหมูกระทะอย่างเอร็ดอร่อย ทำเอาแฟนๆ ที่เห็นต่างเข้ามาคอมเมนต์รัวๆ เลยทีเดียว นึกว่าอะไรยุบไม่ได้ ตกใจกันหมด 555
คว้าชัยนัดแรก :
การแข่งขันเซปักตะกร้อรายการเอสทีแอลแชมเปี้ยนส์คัพ 2025 ที่คาริสม่าอารีน่า เมืองซเรมบัน รัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน ประเทศมาเลเซีย แข่งขันระหว่างวันที่ 3-7 ก.ย.68 โดยทัพนักหวดลูกพลาสติก “มังกรไฟ” ราชบุรี ทีเอที คืนฟอร์มเก่งจัดการไล่ต้อนเจเปน เซปักตะกร้อ จากญี่ปุ่นไป 2-0 เซต 15-10 และ 15-6 คว้าชัยนัดแรกในศึกแชมเปี้ยนส์คัพที่มาเลเซีย
เวทีสานฝันดาวรุ่ง :
กอล์ฟเยาวชนนานาชาติ “ไทยแลนด์ จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพ 2025” เริ่มขึ้นแล้วที่เชียงใหม่ รายการนี้เป็นเวทีสำคัญสำหรับนักกอล์ฟเยาวชนจาก 13 ประเทศที่เข้าร่วมประชันฝีมือกันอย่างคึกคัก โดยมีทีมโค้ชจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกาเดินทางมาให้คำแนะนำและมองหาดาวรุ่งเพื่อโอกาสทางการศึกษาในอนาคต
ใจสู้เกินร้อย :
“พิ้งค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ โชว์ฟอร์มสุดแกร่ง ลุ้นถึง 3 เกมเฉือน หยิน ยี่ชิง จากจีน เจ้าถิ่น 2-1 เกม พร้อมผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายแบดมินตัน ไชน่า มาสเตอร์ส 2025 ขณะที่คู่ผสมอย่าง “ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง และ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด ก็ไม่น้อยหน้า เก็บชัยชนะเข้ารอบต่อไปได้เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “ชัยเกษม” แถลงการณ์ ยุบสภาทันที ถ้าได้เป็นนายกฯ