“เอกนัฏ” สั่งปิดโรงงานซีโน่ไทย สุดชุ่ย เอาพลาสติกเก่ารีไซเคิล

เอกนัฏ ปิด ซีโน่ไทย ตั้งโรงงานเถื่อน สุดชุ่ยใช้ขยะพลาสติกจากบ่อขยะทำเม็ดพลาสติก ส่งขายบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ ทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม และ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงงานซีโนไทย มารีน โปรตักส์ จำกัด เลขที่ 277/4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ภายหลังได้รับรายงานจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการ
นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า โรงงานซีโนไทย มารีนฯ ประกอบกิจการทำเม็ดพลาสติกจากเศษพลาสติกเก่าที่ใช้แล้ว และบดย่อยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้วและเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบตามข้อร้องเรียนพบว่า ขณะเข้าตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินเครื่องจักรในการประกอบกิจการ โดยมีนายเฉิน จุ้นสง สัญชาติจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองไทยกว่า 20 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของสถานที่และเป็นผู้ประกอบกิจการ โดยในพื้นที่ดังกล่าวมีโกดังที่อยู่ในรั้วเดียวกันทั้งสิ้น จำนวน 7 โกดัง มีลักษณะการประกอบกิจการโรงงาน 2 ประเภท ประกอบด้วย 1.โรงงานที่ประกอบกิจการ บด ย่อย ยางเก่า 2.โรงงานประกอบกิจการ บด ย่อย ล้าง พลาสติก ซึ่งนายเฉิน จุ้นสง เป็นเจ้าของโรงงานและเจ้าของที่ดิน


นอกจากจะประกอบกิจการโรงงานของตนเองแล้ว นายเฉินยังให้ นายลี ยงปิง สัญชาติจีน เช่าโกดังและพื้นที่บางส่วนภายใน โรงงานซีโนไทย มารีนฯ เช่าตั้งโรงงานบด ย่อย ล้าง หลอม พลาสติก ซึ่งไม่ได้มีการขอออนุญาตที่ถูกต้อง
นายเฉินให้การว่า ขยะพลาสติกรับซื้อจากรถขายของเก่าวันละมากกว่า 10 เที่ยว โดยจะนำขยะพลาสติกมาล้างแล้วนำเข้าเครื่องทำเม็ดพลาสติก จากนั้นจะมีรถจากบริษัทผลิตของใช้พลาสติก และบรรจุภัณฑ์ต่างๆมาซื้อไปเป็นวัตถุดิบ โดยยอมรับว่าดำเนินกิจการไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต และมีการทำผิดเงื่อนไขในท้ายใบอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายเฉิน ส่งที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ดำเนินคดีแจ้งข้อหาประกอบกิจการโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาต และตั้งโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาตพร้อมยึดอายัดเครื่องจักรทั้งหมด


“นอกจากดำเนินคดีในส่วนของ พรบ.โรงงาน พ.ศ. 2535 แล้ว ยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยังอบต.บางหญ้าแพรก เพื่อพิจารณาให้เพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สั่งให้โรงงานต้องแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียที่ปล่อยออกนอกโรงงาน และสั่งให้โรงงานระงับการรับขยะจากบ่อขยะเข้ามาภายในโรงงานด้วย ถือเป็นการยกระดับความเข้มข้นการบังคับใช้กฎหมายร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เพื่อดำเนินการกับผู้ประกอบการที่มีเจตนาประกอบกิจการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “เอกนัฏ” ส่ง สุดซอย จับปลั๊กไฟ-สวิตซ์ไฟ ตราแรด ลักลอบนำเข้า หลอกขายชาวบ้าน 6 แสนชิ้น