“ณพลเดช” เผย นทท.จีน บินการบินไทยเต็มลำ แนะ 5 จุดแข็งเสริมการท่องเที่ยวไทยในเวทีโลก

นายณพลเดช มณีลังกา เลขานุการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม (นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์) และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่วันนี้ผมได้ขึ้นเครื่องการบินไทยตรงจากมหานครเซี่ยงไฮ้ สู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร จากปกติบินชั้นธุรกิจ แต่ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีนจองจนหมดครับ ทำให้ต้องย้ายมานั่งชั้นประหยัด
ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีมาก เพราะได้เห็นบริบทการท่องเที่ยวของไทย ที่นักท่องเที่ยวจีนและชาติอื่นๆ โดยเฉพาะชาวอินเดีย หลังจากมีกรณีเครื่องบิน Air India ตก ผมได้ถามถึงเหตุผลที่ ชาวอินเดีย เลือกบินการบินไทย ได้ข้อมูลว่าคุณภาพของเครื่องบินการบินไทยมีการดูแลเป็นอย่างดี รวมถึงกัปตันและนักบินที่มีคุณภาพ รวมถึงศักยภาพการบินที่มั่นใจได้ ทำให้ชาวอินเดียจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะบินผ่านประเทศไทย และพักต่อเครื่องในเวลา 10-15 ชั่วโมง ซึ่งใช้โอกาสนี้ในการท่องเที่ยวในเมืองและช้อปปิ้งสินค้ากับอินเดียได้ด้วย
สำหรับการที่ผมได้สอบถามนักท่องเที่ยวจีน ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยการมาท่องเที่ยวเป็นแบบครอบครัว และส่วนหนึ่งเป็นแบบแบ็กแพ็ก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนที่มีสถานะการเงินที่ดี ได้ข้อมูลว่าทางการจีนมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของไทยในแง่ของความปลอดภัยและสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ โดยให้ Influencers ของจีนช่วยประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้อีกมิติหนึ่งผมต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ที่ได้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น จากวันนี้เครื่องบิน Airbus A350 จำนวนที่นั่งเต็มลำอยู่ที่ 309 ที่นั่ง ปรากฏว่ามีคนนั่งเครื่องถึง 302 ที่นั่ง โดยชั้นธุรกิจ จำนวน 30 ที่นั่ง เต็มทุกที่นั่ง สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าคุณภาพของนักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มคุณภาพดี

อย่างไรก็ตามผมมีแนวคิดเพื่อเสนอให้เมืองไทยเป็นฮับของการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบไปด้วย 5 ประการครับ
1. เพิ่มศักยภาพและเส้นทางการบินเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคต่างๆ
กระทรวงคมนาคมและการบินไทยควรร่วมมือกันขยายเส้นทางการบินไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก พร้อมปรับปรุงระบบการจัดการเที่ยวบินให้มีเวลาคอนเนคติ้งไฟล์ที่เหมาะสม เพื่อให้นักเดินทางสามารถแวะพักและท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ในราคาประหยัด ส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดพักเชื่อมต่อ (Hub) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสายการบินต่างชาติ
2. สร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมใกล้สนามบิน
กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยควรผลักดันการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่บริเวณใกล้สนามบิน เช่น สวนสนุก สวนป่าธรรมชาติ สวนสัตว์ อควาเรียม(Aquarium) เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือสนามกอล์ฟ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่รอบ และไม่ไกลจากสนามบิน ให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัดในการแวะพักระหว่างการเดินทาง ได้ไปจำนวนมาก
3. พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิมให้สะดวกและมีคุณค่าเพิ่มขึ้น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรปรับปรุงระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวเดิมสะดวกมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มคุณค่าให้สถานที่เดิม เช่น การจัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก และการประชาสัมพันธ์ให้แหล่งท่องเที่ยวมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
4. พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่อย่างสร้างสรรค์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยควรสำรวจและพัฒนาพื้นที่ใหม่ที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น พื้นที่ธรรมชาติที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา หรือพื้นที่ที่สามารถสร้างเป็นจุดเด่นด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
5. ออกแบบการเชื่อมโยงการเดินทางทุกมิติ
กระทรวงคมนาคมควรพัฒนาโครงสร้างการเชื่อมโยงระบบการเดินทางทั้งทางอากาศ ทางเรือ ทางบก และทางรางให้มีความรวดเร็วและสะดวกสบาย เช่น การสร้างระบบขนส่งต่อเชื่อมระหว่างสนามบินและท่าเรือ หรือการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมต่อเมืองหลักและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ครบวงจรและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนไทยมากขึ้น
ผมคิดว่าแนวคิดทั้ง 5 ข้อนี้อาจช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นและยั่งยืนในระดับภูมิภาคและระดับโลก ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวในระดับคุณภาพดี และเรายังคงบริหารจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมของเราให้งดงามได้ดังเดิม สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศได้จำนวนมากครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พนักงานต้อนรับการบินไทยติดอันดับ 8 ของโลก