สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 มิ.ย. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงราย (127 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อุบลราชธานี (145 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ราชบุรี (21 มม.) ภาคกลาง : จ.สระบุรี (19 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (95 มม.) ภาคใต้ : จ.กระบี่ (121 มม.)
วันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 13 – 16 มิ.ย. 68 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง-ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนบางพื้นที่ และยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 56% ของความจุเก็บกัก (45,123 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 36% (22,008 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
3. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 8/2568 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 68
เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำ ในวันที่ 12 – 17 มิ.ย. 68 ดังนี้
3.1 อิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ รวมถึงร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน ทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและอาจไหลเข้าท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ)
3.2 เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร จึงขอให้เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 68 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 7/2568 โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ-สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยที่ประชุมได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกหนักและน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายเบื้องต้น ณ วันที่ 1 พ.ย. 68 ให้รักษาปริมาณน้ำไว้ที่ประมาณ 80% ของความจุอ่างฯ โดยทยอยระบายน้ำในช่วงเวลานี้ เพื่อสงวนและสำรองพื้นที่รองรับน้ำจากฝนตกระลอกใหม่ และลดความเสี่ยงจากน้ำล้นอ่างเก็บน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณด้านท้ายอ่างได้ รวมถึงป้องกันไม่ให้มีมวลน้ำไปสมทบเพิ่มเติมกับปริมาณน้ำในลำน้ำต่าง ๆ ในช่วงที่มีฝนตกหนัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตาม การกำหนดปริมาณน้ำที่ 80% ของความจุอ่างฯ เป็นเพียงแผนบริหารความเสี่ยงในช่วงน้ำหลาก
โดยจะมีการทบทวนและปรับแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงฤดูฝน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้อ่างเก็บน้ำแต่ละแห่งสามารถกักเก็บน้ำได้เต็มศักยภาพ เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับอุปโภคบริโภค การเกษตร และรักษาระบบนิเวศในช่วงฤดูแล้งถัดไป และที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบในหลักการผังน้ำเพิ่มเติม จำนวน 3 ผังน้ำ ได้แก่ ผังน้ำลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ผังน้ำลุ่มน้ำแม่กลอง และผังน้ำลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก และให้ดำเนินการเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อพิจารณาประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ข่าวที่เกียวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 มิ.ย. 68