สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 16 พ.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่ (91 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย (117 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (78 มม.) ภาคกลาง : จ.สมุทรสาคร (82 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (51 มม.) ภาคใต้ : จ.พังงา (68 มม.)
วันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 17 – 21 พ.ค. 68 ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย กับลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้จะมีกำลังอ่อนลง
2. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก : น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ใน เกณฑ์มาตรฐานน้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ใน เกณฑ์มาตรฐาน
3. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 55% ของความจุเก็บกัก (44,455 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 35% (20,246 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำปัจจุบัน มากกว่าปี 2567 จำนวน 2,555 ล้าน ลบ.ม.
4. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2568 ลงวันที่ 15 พ.ค. 68 เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำ ในวันที่ 16 พ.ค. 68 ดังนี้
1. อิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ รวมถึงลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและอาจไหลเข้าท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ)
2. เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร จึงขอให้เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม
5. ข่าวประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ธาว เชตฐา (H.E. Mr. Thor Chetha) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและประชุมหารือความร่วมมือทวิภาคีด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากนั้นในช่วงบ่ายได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
เนื่องจากประเทศกัมพูชาให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จึงหารือร่วมกับ สทนช. เพื่อจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยความร่วมมือในการจัดการน้ำและรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงน้ำท่วมและภัยแล้ง โดยมุ่งเน้นการบูรณาการข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยีด้านน้ำร่วมกัน อีกทั้งได้หารือเรื่องการจัดการน้ำข้ามพรมแดนในลุ่มน้ำโตนเลสาบ ผ่านโครงการ 9C-9T ซึ่งดำเนินภายใต้คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) มาตั้งแต่ปี 2561 เพื่อบริหารความเสี่ยงจากน้ำท่วมและภัยแล้งลดความเสื่อมโทรมของลุ่มน้ำ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน อันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 พ.ค. 68