สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 มี.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และวันนี้ : ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่มีอากาศร้อนโดยทั่วไป ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน มีพายุฝนฟ้าคะนอง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (51,773 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 48% (27,561 ล้าน ลบ.ม.) เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 5 แห่ง ดังนี้
ภาคเหนือ : แม่มอก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ ลำตะคอง และสิรินธร
ภาคตะวันออก : คลองสียัด
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 61 แห่ง ดังนี้
ภาคเหนือ 6 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 32 แห่ง
ภาคกลาง 4 แห่ง ภาคตะวันออก 10 แห่ง ภาคตะวันตก 8 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง
สทนช. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวางแผนการบริหารจัดการน้ำตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ประหยัดน้ำ และลดการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วนตลอดฤดูแล้ง และสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน การให้ความช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ
3. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (17 มีนาคม 2568) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งขับเคลื่อนแผนบูรณาการการแจ้งเตือนอุทกภัยทั้งระบบ ครั้งที่ 3/2568
เพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนรองรับมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช.เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการภายใต้แผนบูรณาการแจ้งเตือนอุทกภัยทั้งระบบ ก่อนจะเสนอ กนช. พิจารณาให้ความเห็นชอบ และได้เน้นย้ำให้หน่วยงานดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 อย่างเคร่งครัดพร้อมปรับปรุงแนวทางการแจ้งเตือนอุทกภัยอย่างเป็นระบบ โดยมอบหมายให้ สทนช. ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ประเมินสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดยใช้ข้อมูลฝนคาดการณ์ ONEMAP ในการปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน อาจจะมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับฤดูฝนที่มีแนวโน้มปริมาณฝนค่อนข้างมาก ทั้งนี้จะมีการประสานกับประชาชนบริเวณท้ายน้ำให้ทราบการพร่องน้ำไว้รองรับน้ำหลากและนำน้ำไปใช้ประโยชน์ได้ อีกทั้งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งขับเคลื่อน 9 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้เห็นชอบโดยเป็นการดำเนินการเชิงป้องกันล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝนเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อประชาชนจากอุทกภัยในช่วงฤดูฝนให้ได้มากที่สุด
4. การให้ความช่วยเหลือ : สทนช. ติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรับสภาพอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ในช่วงวันที่ 17-20 มีนาคม 2568 ดังนี้
กรมชลประทาน ส่งเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน เพื่อให้สามารถนำเครื่องจักรและอุปกรณ์เข้าช่วยเหลือได้ทันที พร้อมทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กำชับให้แต่ละจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงสิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณา พร้อมจัดเตรียมบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติตนให้ปลอดภัย และช่องทางแจ้งเหตุผ่านสื่อของจังหวัดทุกช่องทาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 17 มี.ค. 68