สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 10 มี.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และวันนี้ : ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : วันที่ 11 – 15 มี.ค. 68 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน และจะมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคกลาง ในขณะที่แนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน จะส่งผลให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 66% ของความจุเก็บกัก (52,944 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 50% (28,797 ล้าน ลบ.ม.)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 5 แห่ง ดังนี้
ภาคเหนือ : แม่มอก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ ลำตะคอง และสิรินธร
ภาคตะวันออก : คลองสียัด
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 53 แห่ง ดังนี้
ภาคเหนือ 5 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 26 แห่ง ภาคกลาง 4 แห่ง ภาคตะวันออก 9 แห่ง ภาคตะวันตก 8 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ
1) วางแผนการบริหารจัดการน้ำตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด
2) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ประหยัดน้ำ และลดการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วนตลอดฤดูแล้ง
3) สร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน การให้ความช่วยเหลือ ผ่านช่องทางต่าง ๆ
3. ประกาศแจ้งเตือน : สทนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำ ในช่วงวันที่ 10 – 13 มี.ค. 68 ดังนี้
1. จากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและอาจไหลเข้าท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูงเป็นประจำ
2. เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ริมแม่น้ำ ควรรักษาระดับน้ำในบ่อพักให้สูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มจากแม่น้ำดันไหลซึมเข้าบ่อ
4. การให้ความช่วงเหลือ : สทนช. ติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาด้านน้ำ ดังนี้
กรมชลประทาน ดำเนินการขุดลอกตะกอนดินพร้อมกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ บริเวณคลองส่งน้ำ ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการส่งน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อตอบสนองความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งเตรียมการก่อสร้างระบบกระจายน้ำบาดาล ในพื้นที่บ้านบางเนียน ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช หากดำเนินการแล้วเสร็จจะมีน้ำสำหรับพื้นที่การเกษตร จำนวน 63 ไร่
5. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 9 มี.ค. 68