คลังดันจีดีพีปีนี้โต 3.5%
กระทรวงการคลัง เผย 5 ปัจจัยบวกหนุนจีดีพีปีนี้ บวก 3.5% ได้อย่างแน่นอน พร้อมคาดการณ์อาจบวกได้อีก 0.5% รวมเป็น 3.5% ภายใต้ 5 มาตรการเช่น เร่งรัดการเบิกจ่ายงบ การแข่งกีฬาซีเกมส์
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะขยายตัวช่วงระหว่าง 2.5-3% โดยค่ากลางอยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว (2567) ที่ขยายตัว 2.5% และปี2566 ขยายตัว 1.9% โดยมี 4 ปัจจัยบวกหลัก ได้แก่ 1.การบริโภคภาคเอกชน โดยการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.3% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.8% – 3.8%) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง
2. มูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว 4.4% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 3.9% – 4.9%) สอดคล้องกับความต้องการสินค้าของตลาดโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น 3.ภาคการท่องเที่ยวคาดว่ายังขยายตัวต่อเนื่องด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 38.5 ล้านคน ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้จากการท่องเที่ยวและส่งเสริมภาคบริการและภาคการผลิตที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศไทยได้กว่า 1.83 ล้านล้านบาท
และ 4.การลงทุนในปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจาก 2 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1.การลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.2% – 3.2%) จากการเร่งดำเนินโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนโดยบีโอไอ ซึ่งมีมูลค่าขอรับการส่งเสริมสูงกว่า 1.14 ล้านล้านบาทในปี 2567 สูงสุดในรอบ 10 ปี และมีโครงการยื่นขอส่งเสริมกว่า 3,100 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะทยอยลงทุนจริงภายใน 1–4 ปี หลังการอนุมัติ
และ 2.การลงทุนภาครัฐที่คาดว่า ขยายตัวที่ 3.4% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.9% – 3.9%) จากความต่อ เนื่องในการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนและการเร่งรัดโครงการสำคัญเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่ง ขัน และกระตุ้นการลงทุนต่อเนื่องในภาคเอกชน นอกจากนี้ แรงหนุนจากเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ยังส่งผลให้การบริโภคภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.3% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 0.8%- 1.8%)
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้เตรียมเสนอมาตราการเร่งรัด ติดตาม ปิดรู้รั่ว เพื่อผลักดันให้จีดีพีปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.5% เป็นขยายตัว 3.5% ประกอบด้วย 1.การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2568 ทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุน ที่ตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายเพิ่มจากปกติที่ 75% เป็น 80% จากรายจ่ายลงทุนทั้งปีงบประมาณ 2568 มีผลให้จีดีพีขยายเพิ่มอีก 0.11%
2. การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายของประชาชนภายใต้โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต (ระยะที่ 3) เพื่อทำให้เม็ดเงินทั้งหมดถูกใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ และทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากที่สุด คาดว่ามีผลให้จีดีพีขยายได้ 0.1%
3. การเร่งรัดการลงทุนในโครงการบ้านเพื่อคนไทย เพื่อให้เกิดการลงทุนตามแผนงาน ที่ในปี 2568 จะลงทุน 870 ล้านบาท คาดว่าจะมีผลต่อจีดีพี 0.002%
4. การกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาพรวม และช่วงปลายปีที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ช่วงปลายปี 2568 ถ้าสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่ม 500,000 คน ก็จะส่งผลให้จีดีพีขยายตัวอีก 0.15%
5. การเร่งรัดโครงการการลงทุนของภาคเอกชน หลังได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้ว โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับ ดาต้า เซ็นเตอร์ และคลาวด์ เพื่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนจริงราว 75,000 ล้านบาท รวมไปถึงการลงทุนของ บริษัท กูเกิล อีกราว 25,000 ล้านบาท ส่งผลให้กระตุ้นจีดีพีขยายตัวได้อีก 0.19%
“ในฐานะของคนที่ทำนโยบายก็ต้องมั่นใจและเชื่อมั่นว่า จีดีพีที่ขยายตัว 3.5% เป็นไปได้ 100% แม้นโยบายการขึ้นภาษีและมาตรการต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีความรุนแรงก็ตาม แต่ในขณะนี้ รัฐบาลก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เช่น การขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ มาตรการสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติของบีโอไอ เป็นต้น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลัง ปลื้มโอนเงิน 1 หมื่นบาท สำเร็จ 93.37%