ส่งออกประมงรอบ 10 ปี รายได้พุ่ง 2.4 แสนล้านบาท
กรมประมง เปิดข้อมูลการส่งออกสินค้าประมงในรอบ 10 ปี ระหว่างปี 57-67 ดีดตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ปีหลัง โดยในปี67 ทำมูลค่าได้สูงถึง 240,062 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติการส่งออกสินค้าประมงที่สูงสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
กรมประมง เปิดข้อมูลการส่งออกสินค้าประมงในรอบ 10 ปี ระหว่างปี 57-67 ดีดตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ปีหลัง โดยในปี67 ทำมูลค่าได้สูงถึง 240,062 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติการส่งออกสินค้าประมงที่สูงสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ปี 67 นับเป็นปีที่สินค้าประมงทำรายได้สูงสุดในรอบ 10 ปี ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่สินค้าประมงของไทยยังสามารถเดินหน้าสร้างมูลค่าการส่งออกได้ถึง 240,062 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นจากปี 65 และ 66 ที่ทำมูลค่า 229,123 ล้านบาท และ 211,286 ล้านบาท ตามลำดับ และยังมากกว่าปี 57 ที่เคยทำมูลค่าไว้สูงถึง 227,860 ล้านบาท
โดยปัจจัยหลักที่เป็นแรงหนุนให้เกิดการขยายตัวส่งออกเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าประมงแปรรูปได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มทูน่ากระป๋อง ซึ่งช่วงเดือนม.ค.-ธ.ค. 67 มีปริมาณการส่งออก 548,653 ตัน มูลค่า 82,250 ล้านบาท มีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น 32% และ 34% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 66
นอกจากนี้ ยังมีในกลุ่มของอาหารกระป๋องสำหรับสุนัขและแมว ซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าประมงที่ขยายตัวมากที่สุดในขณะนี้ โดยมีปริมาณส่งออก 174,793 ตัน มูลค่า 27,751 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น 51% และ 62% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 66 โดยทั้งสองกลุ่มสินค้าดังกล่าว นับเป็นกลุ่มที่มีปริมาณการส่งออกที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนสินค้ากุ้งและผลิตภัณฑ์ มีการส่งออกทั้งปีปริมาณ 136,774 ตัน มูลค่า 43,325 ล้านบาท ปริมาณลดลง 0.38% และมูลค่าลดลง 5% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 66 โดยปัจจัยหลักเป็นผลมาจากวัตถุดิบกุ้งในประเทศมีปริมาณน้อย ในขณะที่แนวโน้มการนำเข้ากุ้งของตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นลดลง เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งผลทำให้อำนาจการซื้อลดลง รวมทั้งมีการแข่งขันด้านราคาอย่างมากของประเทศผู้ผลิตหลัก คือ เอกวาดอร์และอินเดีย แต่สัดส่วนการบริโภคภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่
อันดับ 1 คือ สหรัฐอเมริกา เป็นตลาดส่งออกหลักสินค้าประมงของไทย โดยปี 67 มีปริมาณส่งออก 271,521 ตัน มูลค่า 50,882 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้น 25% มูลค่าเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 66
อันดับ 2 ญี่ปุ่น มีปริมาณ 196,362 ตัน มูลค่า 37,142 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้น 4% มูลค่าลดลง 3% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 66 โดยสาเหตุมาจากปัญหาค่าเงินเยนอ่อนค่า
อันดับ 3 จีน มีปริมาณส่งออก 226,882 ตัน มูลค่า 22,391a ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้น 14% แต่มูลค่าลดลง 2% เป็นผลมาจากสัตว์น้ำส่งออกบางชนิดมีราคาต่ำกว่าปีที่ผ่านมา
ประเทศกลุ่มอาเซียน มีปริมาณการส่งออก 318,038 ตัน มูลค่า 22,090 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นมูลค่าการส่งออกสูงสุดมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปริมาณเพิ่มขึ้น 10% มูลค่าเพิ่มขึ้น 11% โดยสินค้าที่มีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง หมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง และปลากระป๋องอื่น ๆ เป็นต้น
สำหรับในปี 68 เชื่อมั่นว่าแนวโน้มการส่งออกสินค้าประมงของไทยยังคงสดใส ด้วยปัจจัยบวกจากความต้องการสินค้าประมงในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น โดยกรมประมงพร้อมที่จะมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าประมงไทยให้มีมาตรฐานตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยทางอาหารให้กับผู้บริโภค ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการผลิต รวมถึงจะเร่งขยายฐานการตลาดใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านสินค้าประมงคุณภาพระดับโลกในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พาณิชย์ เผย 10 ธุรกิจเด่นปีนี้ 2568