คนจีนแห่ซื้อบ้านดันยอดพุ่ง 2 หมื่นล้าน
• เมียนมาที่ 2 หนีสงครามซบไทย
• กทม.ขึ้นแชมป์-พัทยา อันดับ 2
• คอนโด 31-60 ตารางเมตรขายดี
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยต่างชาติซื้อบ้านในไทย ช่วง 9 เดือนแรกของปี2567 จีนยืนหนึ่งซื้อมากสุดกว่า 2 หมื่นล้านบาท รองลงมาเป็นเมียนมาหนีภัยสงคราม ดันยอดซื้อบ้านในพุ่งกว่า 200%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงาน สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาสที่ 3 ปี2567 พบว่า ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ 3,756 หน่วย เพิ่มขึ้น 11.6% และมีมูลค่า 18,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% โดยคิดเป็นพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดรวม 165,367 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ สัดส่วนของจำนวนหน่วย และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในภาพรวมเพิ่มขึ้น 12% และ 23.4% ตามลำดับ โดยปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอยู่ที่ 11.6% และ 21.1% ตามลำดับ
สำหรับระดับราคาห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ ในไตรมาสที่ 3 ปี2567 ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมากที่สุด อยู่ในช่วงไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยมีการโอน 1,882 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 50.1% รองลงมาราคา 3.01–5ล้านบาท มี 868 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 23.1% ระดับราคา 5.01-7.50 ล้านบาท มี 486 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 12.9% ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มี 319 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 8.5% และระดับราคา 7.51–10 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 201 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 5.4%
ทางด้านมูลค่า พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากที่สุดในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท โดยมีมูลค่า 6,984 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37.6% รองลงมา คือ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีมูลค่า 3,537 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19% ระดับราคา 3.01–5 ล้านบาท มีมูลค่า 3,416 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18.4% ระดับราคา 5.01–7.50 ล้านบาท มีมูลค่า 2,909 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.7% และระดับราคา 7.51–10 ล้านบาท มีมูลค่าน้อยที่สุดคือ 1,724 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9.3%
ส่วนขนาดพื้นที่ห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ขนาดห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติคือ ขนาดพื้นที่ 31 – 60 ตารางเมตร (ประเภท 1 – 2 ห้องนอน) โดยมีจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติ 1,712 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 45.6% รองลงมา คือ ห้องชุดขนาดพื้นที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร (ห้องสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน) มี 1,436 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 38.2%
รองลงมาคือ ห้องชุดขนาดพื้นที่ 61 – 100 ตารางเมตร (2 – 3 ห้องนอนขึ้นไป) จำนวน 421 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 11.2% และห้องชุดขนาดพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร (3 ห้องนอนขึ้นไป) มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 187 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% และหากย้อนหลังไปถึงปี2562 พบว่า ห้องชุดขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร และขนาด 31 – 60 ตารางเมตร เป็นประเภทห้องชุดที่คนต่างชาตินิยมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์รวมกันสูงกว่า 80% ในแต่ละไตรมาส
ทั้งนี้ การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.67) มี 11,036 หน่วย เพิ่มขึ้น 3.1% โดยมีมูลค่า 51,458 ล้านบาท ลดลง -1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ยังพบว่า สัดส่วนจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในภาพรวมทั้งหมดมีสัดส่วน 13.3% ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วน 13.6% แต่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในภาพรวมเพิ่มขึ้น 24.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วน 23.3%
สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในกรุงเทพฯ มีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วน 38.7% รองลงมาอันดับ 2 เป็นจังหวัดชลบุรี มีสัดส่วน 36% และหากนับรวมทั้ง 2 จังหวัดรวมกันมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันถึง 74.7% และมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 80.7% ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ
สัญชาติของผู้ซื้อห้องชุดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. – ก.ย.) พบว่า คนจีนยังเป็นกลุ่มที่มีจำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วน 39.7% และ 39.3% อันดับ 2 เป็นคนเมียนมา มีสัดส่วน 9.5% และ 10.6% และอันดับ 3 คือ คนรัสเซีย มีสัดส่วน 7.2% และ 5.3% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ซื้อคนอินเดียเป็นสัญชาติที่มีทั้งมูลค่าการโอนต่อหน่วยมากที่สุดและขนาดห้องใหญ่ที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนต่อหน่วยเฉลี่ย 6.3 ล้านบาทต่อหน่วย และขนาดห้องเฉลี่ย 76.5 ตารางเมตร ส่วนคนจีน ที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด มีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 4.6 ล้านบาต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.1 ตารางเมตร
สำหรับคนต่างชาติที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) พบว่า คนจีนมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ 4,386 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 39.7% ของหน่วยทั้งหมด และ 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ เมียนมา 1,050 หน่วย คิดเป็น 9.5% รัสเซีย 800 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 7.2% ไต้หวัน 612 หน่วย คิดเป็น 5.5% และ สหรัฐฯ 436 หน่วย คิดเป็นะ 4% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม กรณีที่ชาวเมียนมา มีการโอนกรรมสิทธิ์มากถึง 1,050 หน่วย คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 202.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีเพียง 347 หน่วย
ขณะที่ มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้กับคนต่างชาติในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด 20,201 ล้านบาท คิดเป็น 39.3% ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์รองลงมา คือ เมียนมา 5,463 ล้านบาท คิดเป็น 10.6% ไต้หวัน 3,166 ล้านบาท คิดเป็น 6.2% รัสเซีย 2,750 ล้านบาท คิดเป็น 5.3% และสหรัฐฯ 2,297 ล้านบาท คิดเป็น 4.5% ตามลำดับ
สำหรับจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) พบว่า จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ, ชลบุรี, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพมหานคร มี 4,269 หน่วย คิดเป็น 38.7% และชลบุรี 3,976 หน่วย คิดเป็น 36% ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึง 74.7% ของทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คึกคัก