คลังผ่อนเกณฑ์สุราชุมชน
คลังผ่อนคลายสุราชุมชน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ผู้ผลิตสุรารายเล็กสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้น เป็นไม่เกิน 50 แรงม้า และยกเลิกสถานที่ตั้งโรงงานสุรา ต้องห่างจากแหล่งน้ำ 100 เมตร พร้อมไฟเขียวคราฟเบียร์ และ Brew Pub นำเบียร์ใส่ถังขนาดไม่เกิน 20 ลิตร สามารถนำออกมาจำหน่ายนอกสถานที่ได้
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ภายในเดือนม.ค. หรืออย่างช้าต้นเดือนก.พ.2568 กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิต จะเสนอร่างหลักเกณฑ์และเงื่อนไข เกี่ยวกับการผลิตสุราชุมชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.โดยคาดว่าปลายเดือนก.พ.2568 จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
“หลักเกณฑ์และเงื่อนไขใหม่ที่ในการผลิตสุราชุมชน เพื่อต้องการให้ชุมชนท้องถิ่นในต่างจังหวัด ที่มีภูมิปัญญาในการผลิตสุราเดิมอยู่แล้ว และเป็นเจ้าของโรงงานผลิตที่มีขนาดเล็ก สามารถขยายกิจการได้ใหญ่ขึ้น และลดปัญหาหรืออุปสรรคเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในกิจการดังกล่าว”
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลต้องการส่งเสริมสุราชุมชน ด้วยการลดข้อจำกัดในการเข้าสู่ธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจสุรารายใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม “สุราชุมชน” ให้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุรา และส่งเสริมความ สามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมธุรกิจให้มีศักยภาพ และช่วยยกระดับรายได้ของชุมชนและส่งเสริมการใช้ผลผลิตภายในประเทศ
สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ปรับปรุงใหม่ ประกอบด้วยโรงเบียร์ที่เป็น Brew Pub และโรงเบียร์ที่ผลิตคราฟเบียร์ จะเปิดโอกาสผลิตเบียร์ใส่ถังได้ เหมือนกับเบียร์สด แต่มีขนาดไม่เกิน 20 ลิตร จากเดิมที่โรงเบียร์ขนาดเล็ก หรือผู้ผลิตคารฟเบียร์ไม่สามารถนำเบียร์ออกมาจำหน่ายนอกร้าน
สำหรับโรงงานผลิตสุราในชุมชน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้ผลิตสุราขาว หรือเหล้าขาว ที่มีกฎเกณฑ์เดิมคือ จะต้องตั้งโรงงานห่างไกลจากแหล่งน้ำ ไม่น้อยกว่า 100 เมตรเพื่อป้องกันการทิ้งกากสุรา ต้นเหตุของน้ำเน่าเสีย โดยจะยกเลิกเงื่อนไขนี้ แต่โรงงานสุราชุมชนต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียตามมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษด้วย ซึ่งการยกเลิกเรื่องดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้กับชุมชนที่จะตั้งโรงงานผลิตสุราในชุมชน และยังทำให้ชุมชนสามารถใช้แหล่งน้ำในชุมชนที่เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตสุรา มีเรื่องเล่าขาน หรือ Story ของสุราชุมชน
นอกจากนี้ ยังจะเปิดให้โรงงานผลิตสุราชุมชน สามารถขยับเป็นโรงงานสุราขนาดกลางได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดโรงงานขนาดเล็กมาแล้ว 1 ปี ทั้งนี้ โรงงานขนาดเล็กจะมีขนาดไม่เกิน 5 แรงม้า มีคนงานไม่เกิน 7 คน กรณีที่เป็นโรงงานขนาดกลาง จะมีกำลังผลิตเกิน 5 แรงม้า แต่ไม่เกิน 50 แรงม้า
“กรมสรรพสามิตต้องการลดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ผลิตรายย่อยและรายกลาง เพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการพัฒนาสุราชุมชน ซึ่งกรมสรรพสามิตจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป” รมช.คลังกล่าว
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานสุราขนาดเล็กและขนาดกลาง มีโอกาสในการแข่งขันยังไม่เท่ากับผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศ ซึ่งการขจัดข้อจำกัดดังกล่าวข้างต้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันที่เป็นธรรมในธุรกิจนี้มากขึ้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันการแบ่งขนาดของโรงงานสุราในประเทศที่เป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เป็นการแบ่งโดยอาศัยขนาดของแรงม้าของเครื่องจักรในการผลิต โดยหาก เป็นขนาดไม่เกิน 5 แรงม้า หรือมีคนงานไม่เกิน 7 คน จะถือเป็นโรงงานผลิตขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่า สุราชุมชน โรงงานที่มีขนาดกลางคือ มีกำลังการผลิต 50 แรงม้า และตั้งแต่มากกว่า 50 แรงม้า เป็นโรงงานผลิตขนาดใหญ่ ในส่วนของอัตราภาษีนั้น ใช้เป็นอัตราภาษีเดียวทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เช่น สุราขาว อัตราภาษีตามมูลค่าอยู่ที่ 2 % และอัตราภาษีตามปริมาณ อยู่ที่ 155 บาท/ลิตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : วอนรัฐเปิดโอกาสให้สุราชุมชนไทย โกอินเตอร์