คลังแจกแหลก Easy E-Receipt
คลังมั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปี รวม 3 โครงการยักษ์ เป็นเงินกว่า 1.4 แสนล้านบาท ดันจีดีพีปีนี้ แตะ 2.9% ปีหน้า 3% พร้อมชง ครม. ผุด Easy E-Receipt เริ่มกลางเดือนม.ค.ปิดโครงการสิ้นเดือนก.พ.นี้ วงเงินลดหย่อยภาษีไม่เกิน 50,000 [km
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช้อปดีมีคืน หรือ Easy E-Receipt โดยกำหนดวงเงินการใช้จ่ายที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งคาดว่า มาตรการนี้ จะกระตุ้นการใช้จ่ายได้ 70,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มใช้มาตรการตั้งแต่กลางเดือนม.ค.จนถึงสิ้นเดือนก.พ.2568 หรือรวมระยะเวลา 45 วัน
สำหรับมาตรการดังกล่าว ในปีนี้ จะแตกต่างไปปีที่แล้ว เดิมผู้ที่เข้าร่วมโครงการสามารถซื้อสินค้าใดก็ได้ ที่ไม่ห้ามสามารถนำมาลดหย่อนได้ตามจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท แต่ในรอบนี้ ได้แบ่งออกเป็น 2 วงเงิน กล่าวคือ
คือ 1.วงเงินแรกไม่เกิน 30,000 บาท เป็นการใช้จ่ายสำหรับการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึง แพคเกจทัวร์ โรงแรม และโรงแรมที่พัก และ2.วงเงินที่อีก 20,000 บาท จะเป็นการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้า และบริการของวิสาหกิจชุมชน หรือ โอทอปเท่านั้น
ส่วนสินค้าที่ไม่สามารถใช้จ่ายในโครงการนี้คือสุรา เบียร์ ยาสูบ น้ำมัน ก๊าซ ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค น้ำประปา ค่าไฟฟ้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ มือถือ อินเตอร์เน็ต ประกัน ค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และทองคำ เป็นต้น โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องขอใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
“กระทรวงการคลัง คาดว่า โครงการนี้ จะทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่คาดว่า จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชนได้มากกว่า 7 หมื่นล้านบาท และยังเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการที่จะเข้าสู่ระบบภาษีได้อีกประมาณ 20% จากปีก่อน”
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากรวมมาตรการนี้ เข้ามาตรการอื่นๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ คาดว่า จะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 140,000 ล้านบาท จากทั้งหมด 3 โครงการ 1.โครงการไร่ละพัน ซึ่งรัฐบาลจะใส่เงินให้แก่เกษตรกรจำนวนกว่า 30,000 ล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ 2.โครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส2 สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จ่ายเป็นเงินสด วงเงิน 32,000 ล้านบาท และ โครงการกระตุ้นการใช้จ่าย Easy E-receipt จำนวน 70,000 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลมั่นใจว่า สิ้นปีนี้ เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 2.8% อย่างแน่นอน และในปีหน้า จะขยายได้ 3% หรือมากกว่า 3%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลังชงครม.ฟื้นช้อปดีมีคืน