สรุปข่าวประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2567
สรุปข่าวประจำวัน หุ้น ตปท.-ไทย : ปิดตลาด (17 ธ.ค. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 43,449.90 จุด ลดลง 267.58 จุด (0.61%) แนสแด็ก ปิดที่ 22,001.08 จุด ลดลง 95.57 จุด (0.43%) เอสแอนด์พี ปิดที่ 6,050.61 จุด ลดลง 23.47 จุด(0.39%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,395.57 จุด ลดลง 24.15 (1.70%) มูลค่า 55,366.20 ล้านบาท
สรุปข่าวประจำวัน
ทองคำลง 50 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (17 ธ.ค.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 42,750.00 บาท ขายออกบาทละ 42,850.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 41,978.04 บาท ขายออกบาทละ 43,350.00 ราคาทองคำลง 50 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 16 ธ.ค.
เงินบาททรงตัว :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (17 ธ.ค.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 34.2683 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.6841 บาทต่อ 1 ปอนด์, 36.1955 บาทต่อ 1 ยูโร, 22.4899 ต่อ 100 เยน, 4.4316 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.5643 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.7882 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
ปตท. คงน้ำมันรับปีใหม่ :
พีทีที สเตชั่น มอบของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เติมเต็มความสุขให้คนไทย ไม่ขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิดระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 – 2 ม.ค. 2568 รวม 7 วัน และหากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดก็จะปรับลดราคาน้ำมันลง เตรียมความพร้อมให้ พีทีที สเตชั่น ทุกแห่งมีน้ำมันเพียงพอในช่วงเทศกาล พร้อมมอบสิทธิพิเศษจากร้านค้าในเครือ OR ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์บริการยานยนต์ ฟิต ออโต้ก๊าซหุงต้ม ปตท. และคาเฟ่ อเมซอน ตลอดช่วงเทศกาลแห่งความสุข
ตรึง LPG 3 เดือน :
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีการพิจารณาถึงสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ของตลาดโลก รวมถึงสถานะกองทุนน้ำมัน โดยที่ประชุมได้มีมติให้คงราคาขายส่งก๊าซ LPG หน้าโรงกลั่นที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2568 และให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป
คนไทยเที่ยวกระเป๋าแบน :
SCB EIC ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคชาวไทยเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยว พบว่า แม้นักท่องเที่ยวไทยจะได้รับแรงกดดันด้านกำลังซื้อเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มผู้มีสถานะการเงินที่มั่นคงยังมีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่มีภาระหนี้ กลุ่มรายได้ดี และโดยเฉพาะกลุ่มที่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นก็ยิ่งมีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่กลุ่มผู้มีสถานะการเงินเปราะบางมากกว่าครึ่งหนึ่งมีแนวโน้มท่องเที่ยวลดลงหรือยกเลิกแผนเที่ยว ทั้งนี้ การใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศจะอยู่ที่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนต่อวัน และการใช้จ่ายเฉลี่ย สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อคนต่อวัน
ครม.เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร 1,000 บาท :
ครม.อนุมัติ ร่างกฎกระทรวงการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อเป็นการส่งเสริมการเพิ่มอัตราการมีบุตรของผู้ประกันตนและเป็นการบรรเทาภาระการเลี้ยงดูบุตรของผู้ประกันตนให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพของกองทุนประกันสังคมซึ่งมีสาระสําคัญ ดังนี้ เพิ่มอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร เหมาจ่ายเป็นเงินในอัตรา 1,000 บาทต่อเดือนต่อบุตร 1 คน (เดิม เหมาจ่ายในอัตรา 800 บาท ต่อเดือนต่อบุตร 1 คน) กําหนดให้มีผลใช้บังคับสําหรับการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีแตรตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป
ทักษิณ ข่มพรรคร่วมรัฐบาล :
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณ ข่มขวัญพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ใครไม่อยากอยู่ ก็ให้บอกมา เป็นพรรคร่วมรัฐบาล มาด้วยกัน ก็ต้องไปด้วยกัน เลือดสุพรรณต้องแบบนั้น
ร้อนถึงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โบ้ยไปว่า อดีตนายกฯทักษิณ ไม่ได้หมายถึงตน เพราะตนยังหนักแน่นกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
แอคชั่นของทักษิณ ครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดหน้าชนของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศให้รู้อย่างชัดเจนว่า ใครเป็นเจ้าของพรรคตัวจริง และในรัฐบาลนี้ ใครใหญ่สุด
ทักษิณ เลือกที่จะส่งสัญญาณนี้ออกไป ในสถานการณ์ที่รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เดินหน้านโยบายอย่างยากลำบาก
ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม , การเดินหน้าเจรจาด้วย MOU 44 , แม้กระทั่งการแจกเงินดิจิทัล ฯลฯ นั่นเป็นเหตุผลและความจำเป็นที่ทักษิณ ต้องออกโรง เปิดหน้าชนพรรคร่วมรัฐบาลด้วยตัวเอง
โค้งสุดท้ายปีนี้ ต่างชาติเที่ยวไทย :
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ธ.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 33,491,851 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,573,080 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 6,449,397 คน มาเลเซีย 4,680,336 คน อินเดีย 2,009,043 คน เกาหลีใต้ 1,767,500 คน และรัสเซีย 1,603,095 คน สำหรับในสัปดาห์นี้ (16-22 ธ.ค.) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น
“เผ่าภูมิ” จ่อชง ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟสสอง :
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง จะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า (24 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของปีนี้ พิจารณาเห็นชอบโครงการโอนเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยคาดว่าผู้สุงอายุ จะได้รับเงินภายในสิ้นเดือน ม.ค.68 อย่างแน่นอน
อินเดียคุมเข้มปล่อยมลพิษ :
อินเดียยกระดับมาตรการควบคุมมลพิษให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ประชาชนรับมือกับมลพิษทางอากาศที่เลวร้ายลงอีกในนิวเดลีและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเมื่อคืนวานนี้ (16 ธ.ค.) ทางการอินเดียได้ออกแนวทางปฏิบัติล่าสุดที่เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น หลังจากดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) พุ่งสูงกว่า 400 จากระดับ 0-500 โดยดัชนีคุณภาพอากาศที่สูงกว่า 400 ถือว่า “รุนแรง” และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบการจัดการมลพิษต้องประชุมฉุกเฉิน นอกจากนี้ คำสั่งเดิมที่กำหนดให้หน่วยงานรัฐเหลื่อมเวลาเข้างานก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยแนวปฏิบัติล่าสุดกำหนดให้พนักงาน 50% ทำงานจากที่บ้าน
จีน-อินเดีย เตรียมถกข้อพิพาทชายแดน :
หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน และอาจิต โดวาล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอินเดีย เตรียมประชุมร่วมกัน ณ กรุงปักกิ่ง ในวันพุธ (18 ธ.ค.) นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ ซึ่งถือเป็นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งนับตั้งแต่ที่ถูกระงับไปเมื่อปี 2563
“ติ๊กต๊อก” ร้องศาลฎีกาสหรัฐฯ :
ติ๊กต๊อก (Tiktok) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ให้ระงับการบังคับใช้กฎหมายที่จะแบนติ๊กต๊อก หากไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต๊อกในจีน ไม่ขายกิจการให้แก่ผู้ซื้อที่ไม่ใช่จีนภายในวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกกฎหมายดังกล่าวในเดือนเม.ย. โดยให้เวลาไบต์แดนซ์เพียง 270 วันในการขายติ๊กต๊อก ด้วยเหตุผลด้านความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ หากบริษัทไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายจะกำหนดให้ผู้ให้บริการแอปสโตร์ อาทิ แอปเปิ้ล (Apple) และกูเกิล (Google) ต้องลบติ๊กต๊อกออกจากแพลตฟอร์ม
DEXON ตั้งบ.ย่อยในชิลี :
บมจ.เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี หรือ DEXON เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีการอนุมัติให้บริษัทย่อย DEXON Technology USA Inc. จดจัดตั้งบริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี ชิลี เอสพีเอ หรือ DEXON Technology Chile SpA ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศชิลี โดยบริษัทย่อยดังกล่าวให้บริการตรวจสอบระบบท่อนำส่งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายฐานการตลาดและการให้บริการในแถบอเมริกาใต้
ปุ้มปุ้ย-กวินท์ ประกาศข่าวดี :
เป็นอีกหนึ่งข่าวดีของครอบครัวดูวาล เมื่อ ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา และ กวินท์ ได้แจ้งข่าวดีให้แฟนๆ ได้ทราบว่าตอนนี้ น้องไซอัลบูล กำลังจะมีน้องแล้ว เพราะปุ้มปุ้ยกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 กลายเป็นว่าที่คุณพ่อคุณแม่ลูก 2 ไปเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งคู่ได้โพสต์คลิปที่กวินท์ใส่หมวกแล้วโชว์คำว่า DAD บนหมวก ก่อนที่ปุ้มปุ้ยจะหยิบภาพอัลตราซาวด์เจ้าก้อนให้ได้ชมกัน พร้อมแคปชั่นว่า “Number.2” ซึ่งในคลิปดังกล่าว ปุ้มปุ้ยก็ใส่หมวกที่มีข้อความว่า MOM เช่นกัน
ไก่ ภาษิต โพสต์อวยพรวันเกิด หมอปิแอร์ :
เรียกว่าเป็นภาพน่ารักที่ทำเอาหลายคนใจฟูไปด้วย สำหรับภาพคู่ของผู้ประกาศข่าวหนุ่มชื่อดัง ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท และ หมอปิแอร์ อาจารย์หมอหนุ่มหล่อ ซึ่ง ไก่ ภาษิต ได้โพสต์ภาพคู่ดังกล่าวลงในอินสตาแกรม @kaipasit เพื่ออวยพรวันเกิด พร้อมทั้งเขียนแคปชั่น “แฮปปี้เบิร์ธเดย์คร้าบปิแอร์ แข็งแรง ร่ำรวย ร่าเริง ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง น่ารักเหมือนในรูปตลอดไปนะจ๊ะ 5555 #รักมากเฟ่อ” และแท็กไปที่ไอจีของหมอปิแอร์ด้วย
สรุปผล :
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 2567 ที่จ.จันทบุรี โดยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำการชิงชัยกันทั้งสิ้น 96 เหรียญทอง แข่งขันท่ามกลางบรรยากาศหน้าหนาวเต็มตัวของ จ.จันทบุรี ในระดับอุณหภูมิประมาณ 23 องศา ซึ่ง”หยก” จุฑาทิพย์ กันทะธง ฟาดชนะ “ตอง” สุดารัตน์ ทองโคตร เพื่อนร่วมทีมชาติไทยจากขอนแก่น 2-0 คว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวเทคบอล ด้านทัพเมืองหลวงโกยแล้ว 108 เหรียญทอง
จ่อแยกโด๊ปองค์กรอิสระ :
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ออกมาเปิดเผยถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงในวงการกีฬาที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2028 โดยหนึ่งในนั้นคือการปรับปรุงโครงสร้างสถาบันโด๊ป หรือ สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา (Doping Control Agency of Thailand หรือ DCAT) ให้มีมาตรฐานตามที่องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ “วาด้า” กำหนด
ร้องช่วยแก้ปัญหา :
เจ็ตสกี จุกรับหนี้ก้อนโตกว่า 14 ล้านบาท จากการทำแผนงานข้ามปี หลัง กกท. แจ้งตัดงบก่อนงานปีที่แล้วแค่ 21 วัน ด้าน ปริเขต สืบสหการขอร้อง รมว.สรวงศ์ เทียนทอง ช่วยแก้ปัญหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สลากเลื่อนออกล็อตเตอรี่เป็น 2 ม.ค.2568