ตลาดหุ้นไทย จับตา สศช. แถลงจีดีพี
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงท่ามกลางปัจจัยลบจากทั้งในและต่างประเทศ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ท่ามกลางหลายปัจจัยลบ อาทิ ความกังวลต่อผลกระทบจากนโยบายต่างๆ ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (หลังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ)
ประเด็นการเมืองในประเทศแรงขาย ทำกำไรช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบไตรมาส 3/2567 รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยยังสอดคล้องกับภาพรวมของตลาดหุ้นภูมิภาคด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นได้ช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการใช้จ่ายในประเทศที่ออกมาค่อนข้างดี
ในวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,442.63 จุด ลดลง 1.51% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน
ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,329.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.97% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 4.20% มาปิดที่ระดับ 321.61 จุด
สัปดาห์ถัดไป (18-22 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,430 และ 1,415 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,460 และ 1,470 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของไทย (18 พ.ย.) ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ (เบื้องต้น) เดือนพ.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น
การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ(เบื้องต้น) เดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตลาดหุ้นไทยแข็ง รับอานิสงส์เฟด-มาตรการรัฐ