สรุปข่าวประจำวันที่ 24 ตุลาคม 2567
สรุปข่าวประจำวัน และหุ้น ตปท. : ปิดตลาด (23 ต.ค. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 42,514.95 จุด ลดลง 409.94 จุด (0.96%) แนสแด็ก ปิดที่ 20,066.96 จุด ลดลง 316.69 จุด (1.55%) เอสแอนด์พี ปิด5,797.42 จุด ลดลง 53.78 จุด (0.92%) ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ เนื่องในวันปิยมหาราช
สรุปข่าวประจำวัน
ทองคำขึ้น 550 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (23 ต.ค.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 43,800.00 บาท ขายออกบาทละ 43,900.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 43,008.92 บาท ขายออกบาทละ 45,400.00 ราคาทองคำขึ้น 550 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 22 ต.ค.
เคทีซี โชว์กำไร :
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี เปิดเผยผลการดำเนินงานของเคทีซีและกลุ่มบริษัทเทียบจากงวดเดียวกันของปี 2566 มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2567 เท่ากับ 1,919 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3.4%) รายได้รวมเท่ากับ 6,890 ล้านบาท เติบโต 6.6% จากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ และหนี้สูญได้รับคืนที่เพิ่มขึ้นจากการตัดหนี้สูญได้เร็วขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 4,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5%
ปลุกม็อบ ภารกิจล้มรัฐบาล :
ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว มีการเสวนา “หยุดขายสินทรัพย์ชาติ ต้องคว่ำ พรบ.ราง ” โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน , นายนิติธร ล้ำเหลือ คณะหลอมรวมประชาชน ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย ฯลฯ นายจตุพร กล่าวตอนหนึ่งว่า หลักกฏหมายดังกล่าวของพรรคเพื่อไทย เมื่อเทียบกับร่างของพรรคร่วมรัฐบาลและของพรรคประชาชนแล้ว ต้องยอมรับว่าร่างของพรรคเพื่อไทยมีพิรุธมาก โดยมีความชัดเจนว่าจะมีการเอื้อนายทุน เพราะในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ครั้งที่ผ่านมา ก็มีตัวแทนจากกลุ่มทุนเข้าไปร่วมด้วย ดังนั้น ถ้าคว่ำ พรบ.ร่างฯ ไม่ได้ ก็คว่ำรัฐบาลเสีย นั่นคือจุดเริ่มต้น ด้าน ศ.เจษฎ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ถ้าร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ถูกคว่ำ ภารกิจเบื้องหน้าคือการเตรียมพร้อมร่างกาย เพราะภารกิจเบื้องหน้าคือการล้มรัฐบาล
ปลื้มพอใจนโยนบายท่องเที่ยว :
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็น ของนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ซึ่งสำรวจประชาชนถึงความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการท่องเที่ยวของรัฐบาลชุดปัจจุบันเพียงใด พบว่าประชาชน 61.2% พอใจต่อการบริหารจัดการการท่องเที่ยว และประชาชน 55.7% เชื่อมั่นว่ารัฐบาลบริหารจัดการท่องเที่ยวไทยดีขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
กสม.แถลงปมตากใบ :
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเยียวยาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกรณีการสลายการชุมนุมที่ตากใบ โดยมีใจความว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าคดีการสลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2547 จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. 2567 นี้ โดยระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุสลายการชุมนุมในครั้งนั้นถูกดำเนินคดีจากการกระทำความผิดที่เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตรวม 85 ราย แต่อย่างใด
ลิซ่า ลลิษา เปิด 5 เมนูอาหารไทยที่ชอบ :
ไม่เคยแผ่ว และไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นกระแสและได้รับความนิยมได้ตลอดในเวลาชั่วข้ามคืน สำหรับ ลิซ่า ลลิษา หรือ ลิซ่า แบล็กพิงก์ และล่าสุดนักร้องสาวชื่อดังระดับโลกได้เปิด 5 เมนูอาหารไทยที่เจ้าตัวชื่นชอบให้คนทั่วโลกได้เห็นแล้วรู้สึกหิวตาม ซึ่งเป็นการสร้าง Soft Power ให้ไทยไปสู่ระดับโลกอีกครั้ง ซึ่งเมนูอาหารไทยที่ลิซ่าคิดถึงที่สุดและอยากจะแนะนำให้ได้ลองกันมีดังนี้ หมูปลาร้า ข้าวเหนียว น้ำจิ้มแจ่ว , ยำมะม่วง , แกงส้มชะอมไข่ , ไข่ลูกเขย และน้ำแข็งไส แต่ละเมนูน่าทานทั้งนั้น และแน่นอนว่าถ้าหากลิซ่าหยิบจับหรือทำอะไร ก็จะกลายเป็นกระแสและได้รับความนิยม ยิ่งถ้าเป็นสินค้าก็ยิ่งขายดีถล่มทลายจนขาดตลาด
aespa คัมแบ็กครองชาร์ตทั่วโลก :
วงที่สร้างเพลงฮิตระดับโลก aespa (เอสป้า) ปลดปล่อยเสน่ห์สุดเท่และความมั่นใจที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ ผ่านมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ (วิพแลช) ผลงานใหม่ในรอบ 5 เดือนต่อจากอัลบั้มเต็มชุดแรก ‘Armageddon’ (อาร์มาเกดดอน) ที่ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมถล่มทลาย หลังจากที่มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ (วิพแลช) ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2567 สามารถทะยานสู่อันดับต้น ๆ บนชาร์ตเพลงดิจิทัลหลักต่าง ๆ ในประเทศเกาหลีใต้ได้ทันที และครองอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums ทั่วโลกกว่า 22 ภูมิภาค ยืนยันถึงความสนใจอันร้อนแรงจากแฟนเพลงทั่วโลกที่มีต่อ aespa
สลับตำแหน่งเพื่องาน :
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ออกมาเปิดเผยว่า หลังการประชุมคณะกรรมการกกท. (บอร์ดกกท.) เมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 ซึ่งมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีการสลับตำแหน่งรองผู้ว่าการกกท.ใหม่ เพื่อความเหมาะสมในการทำงาน โดยสลับให้ นายปรีชา ลาลุน จากเดิมทำหน้าที่รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย มาเป็นรองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ส่วนนายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก จากเดิมรองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา มาเป็นรองผู้ว่าการฝ่ายส่งเสริมกีฬา และ นางโปรดปราน สมานมิตร จากเดิมรองผู้ว่าการฝ่ายส่งเสริมกีฬา มาเป็นรองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย
ร่วมดวลวงสวิง :
“โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ “พราว” ชเนตตี วรรณแสน จัสมิน สุวัณณะปุระ และ”โม” โมรียา จุฑานุกาล ห้าสาวไทยที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ปีนี้ พร้อมกับนักกอล์ฟไทยอีก 5 คน ร่วมแข่งขันไล่ล่าแชมป์ รายการเมย์แบงค์ แชมเปียนชิพ ที่ประเทศมาเลเซีย ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 100.5 ล้านบาท
ข่าวที่เก่่ยวข้อง : เปิดขายวันแรก สลาก N3 หลังทดสอบฉลุย