สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 ต.ค. 67
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.ลำปาง (78 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.ศรีสะเกษ (56 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (75 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (69 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ประจวบคีรีขันธ์ (32 มม.) ภาคใต้ : จ.ยะลา (132 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนล่างประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 19 – 23 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 80% ของความจุเก็บกัก (64,272 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 69% (40,080 ล้าน ลบ.ม.)
3. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : สทนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 13–24 ต.ค. 67 ด้วยอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลลงมาสมทบทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม
4. แนวทางการบริหารจัดการน้ำ : วานนี้ (17 ต.ค. 2567) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำ ครั้งที่ 1/2567 พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิ โดยเผยว่าคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์สภาพอากาศ ฝน และน้ำ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้กับคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวาตภัย และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักและต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม ทำให้มีความเสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่
เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ณ จังหวัดยะลา ในวันที่ 22 ต.ค. 2567 เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับรองรับประชาชนหากจำเป็นต้องอพยพด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบจัดตั้งคณะทำงานเพื่อทบทวนแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำในภาคใต้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และในระยะยาวจะมีการทบทวนเพื่อถอดบทเรียนนำไปใช้ปรับปรุงการดำเนินงานในฤดูฝนหน้าต่อไป
5. สถานการณ์อุทกภัย: วันที่ 18 ต.ค. 67 ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำพูน (อ.เมืองฯ) จ.สุพรรณบุรี (อ.บางปลาม้า และสองพี่น้อง) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา พระนครศรีอยุธยา บางบาล บางปะอิน บางปะหัน ผักไห่ และบางไทร) และ จ.นครปฐม (อ.นครชัยศรี และบางเลน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 17 ต.ค. 67