สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 27 ก.ย. 67
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่ (65) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย (82) ภาคกลาง : จ.สุพรรณบุรี (175) ภาคตะวันออก : จ.ปราจีนบุรี (72) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (142) ภาคใต้ : จ.นครศรีธรรมราช (100)
สภาพอากาศวันนี้ : ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมทะเลอันดามันทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้
คาดการณ์ :.ช่วงวันที่ 28–29 ก.ย.67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน และกระแสลม ฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 72% ของความจุเก็บกัก (58,038 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 58% (33,853 ล้าน ลบ.ม.)
3. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) :
3.1 เฝ้าระวัง น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังแม่น้ำยัง ช่วงวันที่ 26 – 29 ก.ย. 67 จากปริมาณฝนตกหนักบริเวณ จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำยัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 26 -29 ก.ย. 67 ประมาณ 0.30 – 0.90 ม. และจะไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำนอกเขตพนังกั้นน้ำ ริมสองฝั่งของลำน้ำยัง บริเวณ อ.เสลภูมิ และโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด
3.2 เฝ้าระวัง น้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 67 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลลงมาสมทบ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วม บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำท่าจีน ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว บริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ
4.สถานการณ์น้ำ : เนื่องจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสักมีน้ำหลากลงสู่ลำน้ำและอ่างเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานจึงได้บริหารจัดการน้ำและควบคุมระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยปรับเพิ่มการระบายน้ำ ดังนี้
เขื่อนเจ้าพระยา วันที่ 27 ก.ย. 67 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสถานี C.2 จ.นครสวรรค์ที่ 1,930 ลบ.ม./วินาที และระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 1,699 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในพื้นที่ลุ่มต่ำเพิ่มสูงขึ้นอีก
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเก็บกัก 545 ล้าน ลบ.ม. (57%) (ระดับเก็บกักน้ำสูงสุด 960 ล้าน ลบ.ม.) สามารถรับน้ำได้อีก 415 ล้าน ลบ.ม. ได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได ในช่วงวันที่ 26 -28 ก.ย. 67 อัตราการระบายอยู่ในเกณฑ์ 200-260 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 0.60 – 0.80 เมตร
5. สถานการณ์น้ำท่วม : วันที่ 26 ก.ย. 67 ในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่สาย เวียงป่าเป้า และเมืองฯ) จ.เชียงใหม่ (อ.แม่ริม และเมืองฯ) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.ปาย) จ.ลำพูน (ป่าซาง บ้านธิ ทุ่งหัวช้าง แม่ทา และอ.เมืองฯ) จ.สุโขทัย (อ.ศรีสำโรง และสวรรคโลก) จ.น่าน (อ.นาน้อย นาหมื่น และเวียงสา) จ.ลำปาง (อ.งาว เมืองฯ เกาะคา ห้างฉัตร แม่พริก สบปราบ เถิน แม่เมาะ วังเหนือ แม่ทะ และแจ้ห่ม) จ.แพร่ (อ.เมืองฯ ลอง สูงเม่น และวังชิ้น) จ.ตาก (อ.สามเงา และบ้านตาก) จ.พิษณุโลก (อ.พรหมพิราม บางระกำ และเมืองฯ บางกระทุ่ม และวังทอง) จ.เพชรบูรณ์ (อ.ชนแดน ศรีเทพ หนองไผ่ และหล่มเก่า) จ.เลย (อ.เมืองฯ) จ.อุดรธานี (อ.เมืองฯ และสร้างคอม) จ.หนองคาย (อ.ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ เมืองฯ และโพนพิสัย) จ.ชัยภูมิ (อ.เมืองฯ บ้านแท่น ภูเขียว แก้งคร้อ และคอนสวรรค์) จ.ขอนแก่น (อ.แวงใหญ่ แวงน้อย และบ้านไผ่) จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ เขมราฐ โพธิ์ไทร นาตาล โขงเจียม) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.บางบาล บางปะอิน ผักไห่ เสนา บางไทร และพระนครศรีอยุธยา) และ จ.ปราจีนบุรี (อ.ประจันตคาม นาดี และกบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 26 ก.ย. 67