สรุปข่าวรอบสัปดาห์ วันที่ 16 ก.ย.- 21 ก.ย. 67
สรุปข่าวรอบสัปดาห์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ข่าวในประเทศ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คงจีดีพีปีนี้ 2.6% : กสิกรไทย คงประมาณการจีดีพีปี 2567 ไว้ที่ 2.6% โดยครึ่งปีหลัง 2567 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก จับตาผลกระทบเฉพาะหน้าจากปัญหาน้ำท่วม และเศรษฐกิจหลักชะลอตัว ขณะที่ การเลือกตั้งสหรัฐฯ จะมีผลกำหนดทิศทางสงครามการค้าระลอกใหม่ ซึ่งไทยอาจไม่ได้อานิสงส์มากนัก นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยในระยะเวลาที่เหลือ จะได้รับแรงหนุน จากปัจจัยฐานของการส่งออกและการลงทุน และการท่องเที่ยวช่วงฤดูกาล (High Season) รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ในส่วนของอุตสาหกรรม ต้องจับตาเป็นพิเศษ ทั้ง น้ำท่วม บาทผันผวน จีนตีตลาด ไหนจะต้นทุนเพิ่มจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ยอมรับบาทแข็ง : นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ออกมายอมรับว่า เงินบาทแข็งค่าค่อนข้างเร็ว โดยปีนี้บาทแข็งค่าไปแล้ว 3.1% (year to date) และผันผวนมากกว่าบางประเทศ แต่ไม่ได้ผันผวนมากที่สุดในภูมิภาค ซึ่งมีสกุลเงินอื่นผันผวนมากกว่าไทย เช่น มาเลเซีย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระทบกับทั่วโลก แต่ในไทยนั้นมีปัจจัยเฉพาะเพิ่มเข้ามา คือ ราคาทองคำ ที่เงินบาทมีความสัมพันธ์กับราคาทองคำมากกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค รวมทั้งการเมืองในประเทศที่มีความชัดเจนมากขึ้น
ครม.เคาะงบช่วยเหลือน้ำท่วม : ที่ประชุม ครม. เห็นชอบหลักเกณฑ์ การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 และอนุมัติงบกลาง ปี 2567 รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,045 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้กระทรวงมหาดไทย เร่งกระบวนการตรวจสอบความเหมาะสมกับสถานการณ์และลดขั้นตอนเอกสารต่าง ๆ ให้การเข้าถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว
อนุมัติงบดิจิทัลวอลเล็ตเฟสแรก : นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ หรือ การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้านคน โดยอนุมัติงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการ ในวงเงินไม่เกิน 145,552 ล้านบาท โดยเริ่มแจกวันแรก 25 ก.ย.นี้
เดินหน้าต่อ ไม่ล่ม : จากที่มีกระแสข่าวว่าเฟส 2 นั้นอาจจะไม่ได้ไปต่อ ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวิฒน์ รมช.คลัง ออกมาโต้ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลยังเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อเนื่องในเฟส 2 แน่นอน พร้อมเน้นย้ำผู้ลงทะเบียนกลุ่มสมาร์ทโฟน ให้เช็คผลลงทะเบียนให้ดี ไม่ต้องกลัว เพราะรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้ 1.8 แสนล้านบาท โดยจะเป็นการแจกในรูปของดิจิทัลวอลเล็ต ตามเป้าหมายเดิมที่รัฐบาลวางไว้ เพราะนอกเหนือจากความต้องการที่รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องการวางรากฐานไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลด้วย
ยังไม่ได้บทสรุป : หลังจากล่มไป 1 รอบ บอร์ดแรงงาน นัดถกใหม่เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) แต่ยังไม่ได้บทสรุปว่าจะปรับขึ้น หรือไม่ปรับขึ้น เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ตัวแทนราชการไม่เข้าประชุม 4 คน และลูกจ้างไม่เข้า 2 คน จึงทำให้ไม่ครบองค์ประชุม 2 ใน 3 ที่จะต้องมีผู้เข้าประชุม 10 คนขึ้นไป จึงทำได้เพียงการนำเสนอข้อมูลสภาพการจ้างงานของลูกจ้างให้ที่ประชุมได้ทราบ นัดหน้าเตรียมหารือใหม่ 24 ก.ย.นี้ ก็หวังเล็ก ๆ ว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่จะปรับขึ้นเป็น 400 บาทนั้น จะได้ข้อสรุปทันวันที่ 1 ต.ค.
ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ส.ค.ดิ่ง : ส.อ.ท. เผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.67 อยู่ที่ 87.7 ปรับตัวลดลงจากระดับ 89.3 ในเดือนก.ค.67 โดยมีปัจจัยด้านลบจากอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง โดยเฉพาะสินค้าคงทนประเภทรถยนต์ สะท้อนจากยอดขายรถยนต์ในประเทศ 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) อยู่ที่ 354,421 คัน ลดลง 23.71% โดยเฉพาะรถกระบะ และรถบรรทุก เนื่องจากความเข้มงวดในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน ขณะที่กำลังซื้อยังเปราะบางจากความกังวลปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90.8% ต่อ GDP ในไตรมาส 1/2567 ซึ่งกดดันการบริโภคในประเทศ วอนรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ และหาช่องทางเยียวยาภาคธุรกิจ
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย : นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งขยายผลนโยบายรถไฟฟ้าในอัตรา 20 บาทตลอดเส้นทางไปเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ เพื่อเชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าจะเริ่มใช้ได้ทุกสายในเดือน ก.ย.68 ส่วนกระทรวงการคลัง ก็ศึกษาและดำเนินการเรื่องซื้อคืนสัมปทานแบบคู่ขนานกันไป ซึ่งหากกระทรวงการคลัง ดำเนินการจัดตั้งกองทุนฯ ได้ก่อนก.ย. 68 กระทรวงคมนาคมก็จะเข้าไปร่วม เพราะจะสามารถดำเนินนโยบายค่าโดยสารอัตรา 20 บาทตลอดเส้นทางได้เลย
มาตรการชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิง : ข่าวดี ในที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85, น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา B10 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ออกไปอีก 2 ปีจนถึงวันที่ 24 ก.ย.69 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
เตรียมผุด นิคมฯ SME : ไฟแรงไม่หยุด หลังจากเข้ารับตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมลุยงานไม่พัก แว่ว ๆ ว่าได้หารือ กับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน แนวคิดที่จะทำนิคมอุตสาหกรรมเพื่อธุรกิจขนาดเล็กขึ้น (นิคมฯ SME) เพื่อช่วยลดต้นทุน สามารถส่งต่อวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์ให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมได้ ทำให้การสนับสนุน SMEs ทำได้สะดวกขึ้น รวมทั้งการเร่งแก้กฎระเบียบ กฎหมาย เพื่อให้สอดรับกับการดำเนินงานในปัจจุบัน ซี่งเป็นเรื่องสำคัญในการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย โดยคาดว่าการปลดล็อกกฎหมายดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้
กระแสท่องเที่ยวไทย : เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวสะสมในไทย ล่าสุด ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.ย. 67 รวมทั้งสิ้น 24,810,988 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,162,419 ล้านบาท ซึ่งนักท่องเที่ยวจีน ก็ยังคงครองอันดับ 1 เข้าเที่ยวไทยมากที่สุด คาดมีวันหยุดยาว นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่ม
ทองคำปิดบวก : ปิดตลาดทองคำในรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 16 ก.ย.-20 ก.ย. ราคาทองคำปรับตัวลง โดยปิดตลาดเป็นบวก 100 บาท ส่งผลให้ราคาทองแท่ง รับซื้ออยู่ที่ 40,650 บาท และขายออกที่ 40,750 บาท Gold Spot 2,609 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
เงินบาทสัปดาห์หน้า : คาดการณ์สัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลฃการส่งออกเดือนส.ค. ของไทย สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ดัชนี PMI (เบื้องต้น) สำหรับเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนส.ค. ของสหรัฐฯ
ทิศทางตลาดหุ้น : จับตาการคาดการณ์หุ้นในสัปดาห์ถัดไป (23-27 ก.ย.) โดยบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,440 และ 1,420 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,465 และ 1,475 จุด ตามลำดับ โดยวันศุกร์ที่ 20 ก.ย. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,451.69 จุด เพิ่มขึ้น 1.92% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 61,479.97 ล้านบาท ลดลง 5.94% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.10% มาปิดที่ระดับ 358.97 จุด
ข่าวต่างประเทศ
เฟดลดดอกเบี้ย 0.50% : เป็นไปตามที่คาดเดา ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของรอบลงแบบเร็ว-แรง 0.50% นำอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตรา 5.25-5.50% สู่อัตรา 4.75-5.00% Dot Plot เผยเสียงข้างมากหนุนลดอีกอย่างน้อย 0.50%
GDP เวียดนามปี 67 : การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2567 อาจลดลง 0.15% เมื่อเทียบกับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มเอเชียในปีนี้ส่อแววไม่โตตามเป้าที่วางไว้ และคาดการเติบโตของ GDP ในไตรมาส 3/2567 และ 4/2567 อาจลดลง 0.35% และ 0.22% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติที่เวียดนามไม่ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นยางิ
เศรษฐกิจอินเดียคาดบรรลุตามเป้า : ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า อินเดียจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนที่ระดับสูงถึง 8% ในระยะกลางนี้ อย่างไรก็ดี อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้นในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา และ IMF ได้ออกรายงานเตือนเมื่อเดือนก.ค.ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มชะลอตัวลงแตะระดับ 6.5% ในปี 2568
ประกาศล้มละลาย : โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งที่ดำเนินงานโดยซิโนเคม (Sinochem) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศล้มละลาย โดยสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าโรงกลั่นน้ำมันเก่าแก่ทั้ง 2 แห่งนี้เผชิญกับแรงกดดันอันเนื่องมาจากกำไรที่ปรับตัวลดลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อัตราการดำเนินงานของกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กในมณฑลชานตงปรับตัวลดลงอย่างมาก
ตลาด EV : จากข้อมูลจากสมาคมยานยนต์อุตสาหกรรมอินโดนีเซีย (GAIKINDO) เผยว่า กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนขึ้นแท่นแบรนด์ขายดีที่สุดในตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของอินโดนีเซียในเดือนส.ค. ซึ่งแซงหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ ในเอเชีย ซึ่ง รถยนต์ EV จากค่าย BYD ยังครองอันดับ 1 ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินโดนีเซีย ด้วยยอดจำหน่าย 2,971 คัน ตามมาด้วย แบรนด์ยานยนต์ EV สัญชาติจีนอีกสองแบรนด์ ได้แก่ เชอรี (Chery) และอู่หลิง (Wuling) ซึ่งแต่ละแบรนด์มียอดจำหน่ายกว่า 400 คัน
เงินเฟ้ออังกฤษ : สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ว่า เงินเฟ้อของอังกฤษทรงตัวในเดือนส.ค. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) ในเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 2.2% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในเดือนก.ค. และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ ส่วนในเดือนพ.ค.และมิ.ย. ดัชนี CPI ทั่วไปอยู่ที่ระดับ 2% ซึ่งสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
สัญญาณทองคำ : สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกในวันศุกร์ (20 ก.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 31.60 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ 2,646.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำได้แรงหนุนล่าสุดหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เมื่อวันพุธ ซึ่งได้เพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับราคาทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ตลาดน้ำมัน : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (20 ก.ย.) แต่ยังคงปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และการลดลงของสต็อกน้ำมันในสหรัฐฯ ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 71.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 74.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปข่าวรอบสัปดาห์ วันที่ 9 ก.ย.- 14 ก.ย. 67