สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 ส.ค. 67
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคใต้ : จ.ยะลา (187 มม.) ภาคเหนือ : จ.น่าน (147 มม.) ภาคกลาง : สระบุรี (122 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ราชบุรี (97 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อุดรธานี (86 มม.) ภาคตะวันออก : จ.นครนายก (83 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือตอนบนมีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 24 – 25 ส.ค. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนภาคเหนือ และประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
3. สทนช. 3.1. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 24 – 30 ส.ค. 67 พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำบริเวณ.จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสตูล
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80%
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ ลำน้ำงาว แม่น้ำสาย แม่น้ำอิง แม่น้ำน่าน แม่น้ำยม แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก ลำน้ำก่ำ และแม่น้ำตราด
3.2 ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น ช่วงวันที่ 20-25 ส.ค. 67 ขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นและเตรียมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำโขง บริเวณ จ.บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
4. แนวทางการบริหารจัดการน้ำ : เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์เกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ และสุโขทัย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยให้ สทนช. เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการข้อมูลต่าง ๆ และให้ มท. ปภ. ร่วมกับจังหวัดต่าง ๆ ที่ประสบอุทกภัย เร่งแก้ปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงการแจ้งเตือนข้อมูลต่าง ๆ ต้องให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง
5. สถานการณ์อุทกภัย : วันที่ 22 ส.ค. 67 ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.เวียงชัย เชียงแสน ป่าแดด พญาเม็งราย แม่สาย แม่จัน เทิง เชียงของ เวียงแก่น เวียงป่าเป้า และขุนตาล) จ.พะเยา (อ.เมืองฯ ภูซาง ดอกคำใต้ เชียงม่วน เชียงคำ ปง และจุน) จ.ลำปาง (อ.วังเหนือ แจ้ห่ม งาว และแม่เมาะ) จ.น่าน (อ.เชียงกลาง เวียงสา ทุ่งช้าง บ้านหลวง ท่าวังผา นาน้อย ภูเพียง ปัว เมืองฯ บ่อเหลือ และเฉลิมพระเกียรติ) จ.แพร่ (อ.ร้องกวาง สอง เมืองฯ สูงเม่น และหนองม่วงไข่) จ.เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ วังโป่ง และชนแดน) และ จ.อุดรธานี (อ.เมืองฯ ไชยวาน เพ็ญ หนองหาน และกู่แก้ว)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22 ส.ค. 67