คลังแจงเงื่อนไขใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ต
นายจุลพันธ์ รมช.คลัง กล่าวว่า การลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิแจกเงินหมื่นบาทผ่านแอปทางรัฐนั้น รัฐบาลได้แบ่งประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มมีสมาร์ทโฟน์ จะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่เวลา 00.01 ของวันที่ 1 ส.ค. 16 ก.ย.67 และกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน์ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ จะเปิดให้ลงทะเบียน16 ก.ย. – 15 ต.ค.67
โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เข้าไปอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียดทั้งวิธีการลงทะเบียนและวิธีการใช้จ่ายเงิน ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอย่างละเอียดอีกครั้งสำหรับกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน โดยคาดว่าประชาชนจะมาลงทะเบียนราว 45-50 ล้านคน
ส่วนคุณสมบัติของประชาชนที่จะได้รับสิทธิยังคงเหมือนเดิม คือ 1.ต้องเป็นประชาชนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน 2. สัญชาติไทย 3 มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน ณ วันที่ 15 ก.ย. 67 4. ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
5. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท โดยตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่ 1. เงินฝากกระแสรายวัน 2. เงินฝากออมทรัพย์ 3. เงินฝากประจำ 4. บัตรเงินฝาก 5.ใบรับเงินฝาก และ6. ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ 1– 5 ทั้งนี้ เงินฝากดังกล่าวให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม และเป็นเงินฝาก ณ วันที่ 31 มี.ค. 67
6. ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ 7. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ 8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
สำหรับการลงทะเบียนร้านค้านั้น ในเบื้องต้นกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับคุณสมบัติของร้านค้า ช่องทางและวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการและเงื่อนไขอื่นๆ ให้ครั้งถัดไป โดยคาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ 2 ล้านราย โดยปัจจุบันมีร้านค้าที่เป็นนิติบุคคล 910,000 ราย ร้านค้าธงฟ้า 198,000 ราย ร้านค้าโชห่วย 400,000 ราย ร้านค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชน 93,000 ราย ร้านค้าส่ง-ค้าปลีก 50,000 ราย และร้านค้าปลีกที่กระจายอยู่ในห้างสรรพสินค้าอีก 500,000 ราย และเชื่อว่าจะมีร้านค้าอีกจำนวนมาก จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยโครงการนี้เริ่มใช้จ่ายได้ในไตรมาาส 4 ของปีนี้
“การใช้จ่ายเงินดิจิทัลจะเริ่มในไตรมาส4 ของปีนี้ ซึ่งเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ จึงไม่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีปี67 มากนัก แต่จะมีผลทางจิตวิทยา โดยจะเกิดขึ้นในปี68 ที่เม็ดเงิน 450,000 ล้านบาทที่รัฐบาลเติมลงไปในระบบเศรษฐกิจ จะมีผลต่อจีดีพีในปี68 ราว 1.2-1.8%”
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้า ขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น และในการซื้อสินค้าในพื้นที่ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านในเขตอำเภอ อยู่ในอำเภอใด ก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันเท่านั้น และต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) เมื่อประชาชนซื้อสินค้าและชำระเงิน ระบบจะตรวจสอบว่าประชาชนซื้อได้ลงทะเบียนอยู่ในพื้นที่อำเภอเดียวกันกับร้านค้าหรือไม่ หากอยู่อำเภอเดียวกัน ระบบการชำระเงินจึงจะสมบูรณ์
ส่วนการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้านั้น ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้แม้จะอยู่ต่างพื้นที่
สำหรับประเภทสินค้านั้น สินค้าทุกประเภทสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ยกเว้นสินค้าที่ไม่เข้าร่วมรายการ ( Negative List) ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร รวมถึงบริการต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้ในอนาคต หลังเริ่มมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัลไประยะหนึ่งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างหารือการกำหนดวันคิกออฟ คือ วันเริ่มใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กดปุ่มแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้ ในเบื้องต้นประมาณการว่าจะเป็นเดือนต้นเดือนพ.ย.ธ.ค.67นี้ เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ จะมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และประชาชนที่มาทำงานในเมือง เดินทางกลับภูมิลำเนาตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน เมื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถนำเงินดิจิทัลไปใช้จ่ายได้ ซึ่งจะก่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจชุมชน โดยเงินดิจิทัลสามารถใช้จ่ายได้ภายใน 6 เดือนนับจากวันใช้จ่ายวันแรก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลังลุ้นจีดีพีแตะ 3% หลังแจ้งเกิดดิจิทัลวอลเล็ต