ศึกที่ราชพัสดุหมอชิตยังไม่จบ
• ชาวบ้านต้านธนารักษ์ เดินหน้าโครงการทุจริต
• เล็งเดินสายยื่นหนังสือทบทวนคลัง-คมนาคม
กรมธนารักษ์ ปลุกผีเมกะโปรเจ็คยักษ์ “หมอชิตคอมเพล็กซ์” ที่ปิดตำนานมานาน กว่า 2 ทศวรรษ เพราะพัวพันการทุจริต ใส่พานให้ “บางกอกเทอร์มินอล” สร้างห้างสรรพสินค้ามอลล์ใหญ่ มูลค่า 27,000 ล้าน พร้อมขยายเวลาเวนคืนที่ดินชาวบ้านเพื่อเปิดทางเอกชนสร้างทางยกระดับทะลุถนนวิภา วดีรังสิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.นี้ ชาวบ้านในซอยยาสูบ ด้านหลังสถานีขน ส่งหมอชิตเดิมกว่า 30 คน ซึ่งได้รับผลกระทบจากพรฏ.เวนคืนที่ดิน ตามนโยบายกรมธนารักษ์ มีกำหนดจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม.ในเวลา 10.00 น.ที่ศาลาว่าการ เพื่อให้ นายชัชชาติ ยืนยันต่อชาวบ้านว่า จะไม่มีการเวนคืนที่ดินด้านหลังของสถานีขนส่งหมอชิตเก่าอีก
นอกจากนี้แล้ว ยังมีกำหนดจะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการเวนคืนที่ดินดังกล่าวกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.กระทรวงคมนาคม รวม ถึงนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลงานของกรมธนารักษ์ โดยตรงด้วย
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก กรมธนารักษ์ ได้เรียกประชุมผู้บริหารของบริษัท บาง กอกเทอร์มินอล จำกัด และ บริษัทอื่นๆ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า กรมธนารักษ์จะเปิดประมูลที่ดินบริเวณสถานีหมอชิตเดิมในพื้นที่ 63 ไร่ เพื่อสร้างหมอชิตคอมเพล็กซ์ในพื้นที่กว่า 120,000 ตร.เมตร ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า และ สถานีขน ส่งสายเหนือที่จะย้ายกลับมา หลังจากที่ย้ายไปอยู่ในพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศ ไทย(รฟม.) ที่ถนนกำพงเพชร 2 มาเป็นเวลากว่า 26 ปีแล้ว
การปลุกผีของกรมธนารักษ์ครั้งใหม่นี้ ยังมีเป้าหมายจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมครม. เป็นการเร่งด่วนเพื่อขอขยายพรฏ.เวนคืนที่ดินกว่า 35 แปลงในซอยยาสูบ ซึ่งอยู่ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิตเดิม โดยอ้างว่า จะใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างทางยกระดับเชื่อมทะลุออกมายังถนนวิภาวดีรังสิตได้อีกทาง
ทั้งนี้ตาม พรฏ.เวนคืนที่ดินฉบับเดิมซึ่งกำลังจะหมดอายุลงในอีก 2 เดือนข้างหน้า คือ เดือนส.ค.นี้ ซึ่งได้ถูกกรมธนารักษ์ ตั้งเรื่องขึ้นใหม่เพื่อจะขอขยายระยะเวลาออกไปเพื่อก่อสร้างทางยกระดับให้รถโดยสารของ บขส. สามารถใช้เส้นทางนี้วิ่งทะลุจากซอยพหล โยธิน 18/1 ไปออกยังถนนวิภาวดีรังสิต ที่ซอย 5 ระยะทางกว่า 530 เมตรได้
แม้จะมีเสียงคัดค้านจากชาวบ้านในย่านนี้ว่า ไม่มีเหตุผลความจำเป็นจะต้องย้ายสถานีขนส่งกลับสายเหนือมาสร้างความเดือดร้อนให้การจราจรในย่านนี้เกิดปัญ หาอีกและจากการให้สัมภาษณ์ของ นายสุริยะ ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันว่า กระ ทรวงคมนาคม ไม่มีนโยบายจะย้ายสถานีขนส่งสายเหนือจากถนนกำแพงเพชรในปัจจุบันกลับมายังที่ดินผืนเก่าแล้ว
เพราะมีโครงการจะปรับปรุงสถานีขนส่งสายเหนือให้เป็นสถานีขนส่งที่ทันสมัยเหมือนสถานีขนส่งรถโดยสารของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานีรถโดยสารที่ดีที่สุดของโลก ทั้งยังมีความสะดวกสบาย สะอาด และปลอดภัยในการเดินทาง เพื่อรองรับการเดินทางเข้าออกไปยังภาคเหนือ และอิสาน รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางโดยรถบัสของบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) ด้วย
นอกจากนี้ เมื่อสอบถามไปยัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.กระทรวงการคลัง ยังได้ทราบว่า กระทรวงการคลัง ก็ไม่คิดจะทำโครงการที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเช่นกัน
ทั้งนี้ ตามความเห็นชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ระบุว่า เมื่อไม่มีโครงการย้ายสถานีขนส่งสายเหนือกลับมาที่หมอชิตแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปที่จะต้องเวนคืนที่ดินให้เอกชนที่จะได้รับประโยชน์จากการประมูลโครงการนี้ หวนกลับมารังแกและเอาเปรียบประชาชน ด้วยการขยายการเวนคืนที่ดินหลังหมอชิตอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช่เป็นการเวนคืนเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน
ย้อนเวลากลับไปเมื่อราว 28 ปีก่อน โครงการก่อสร้างอาคารหมอชิตคอมเพล็กซ์บนที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ 63 ไร่นี้ จะก่อสร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 อา คาร หรือ ตึกคู่ สูง 36 ชั้น และ 32 ชั้น และใต้ดินอีก 4 ชั้น ที่มีทั้งห้างสรรพสิน ค้า ศูนย์ประชุม และ อพาร์ทเมนท์ ควบคู่ไปกับสถานีขนส่งสายเหนือ และ ที่จอดรถไฟฟ้าของ บีทีเอส รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านตร.เมตร แต่เป็นของสถานีขนส่งสายเหนือซึ่ง บขส.ดูแลอยู่เพียง 120,000 ตร.เมตรเท่านั้น
บริษัท ซันเอสเตท จำกัด ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด (บีเคที) เป็นผู้เสนอแผนการประมูลโครงการนี้ และชนะการประมูลไปในมูลค่า 27,000 ล้านบาท นั่นทำให้ สถานีขนส่งหมอชิตเดิมต้องย้ายไปอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร 2 บนที่ดินของรฟท.จนถึงปัจจุบัน
แต่โครงการนี้ได้ถูกรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังสั่งให้ยุติ เพราะมีปัญหาพัวพันการทุจริตในการประมูล ทำให้โครงการนี้ต้องปิดฉากลง จนกระทั่งกรมธนารักษ์ และบริษัทบีเคที พยายามรื้อฟื้นกลับมาใหม่ใน รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีนี่เอง ขณะที่บริษัท ซันเอสเตท ได้ถูกเทคโอเวอร์ไปโดยนักการเมืองใหญ่หลายคนจากรัฐบาลก่อน และเป็นผู้ผลักดันให้กรมธนารักษ์ปลุกผีโครงการนี้กลับขึ้นมาอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลัง โดยกรมธนารักษ์ จับมือ กองทัพเรือ บริหารจัดการที่ราชพัสดุในความครอบครองดูแล