สทนช. เตือน 26-27 พ.ค. พายุไซโคลนอยู่ใกล้ไทย
ตามที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ออกประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 22 – 26 พ.ค. 2567
ทั้งนี้จากการติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าพายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง คาดว่ามีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียและประเทศบังคลาเทศ ในช่วงวันที่ 26 – 27 พ.ค. 2567 ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรง จะทำให้ด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอ่าวตั๋งเกี๋ย จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก
สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณีพบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทันเพิ่มเติม ในช่วงวันที่ 25 – 31 พ.ค. 2567 ดังนี้
1. ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย แม่สรวย พาน เทิง เชียงของ และเวียงป่าเป้า) จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย ฝาง ไชยปราการ เชียงดาว พร้าว จอมทอง ฮอด แม่แจ่ม แม่ริม สะเมิง และแม่วาง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ปาย ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง และสบเมย) จังหวัดลำปาง (อำเภอเกาะคา เถิน แม่พริก วังเหนือ เมืองปาน แจ้ห่ม และงาว) จังหวัดลำพูน (อำเภอแม่ทา บ้านโฮ่ง และลี้) จังหวัดน่าน (อำเภอเมืองน่าน ทุ่งช้าง ปัว ท่าวังผา แม่จริม และเวียงสา) จังหวัดแพร่ (อำเภอเมืองแพร่ สอง ร้องกวาง สูงเม่น และเด่นชัย) จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ฟากท่า และท่าปลา) จังหวัดตาก (อำเภอเมืองตาก แม่สอด ท่าสองยาง แม่ระมาด และอุ้มผาง) จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอชาติตระการ นครไทยและเนินมะปราง)
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย (อำเภอนาแห้ว เชียงคาน ด่านซ้าย และปากชม) จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย ศรีเชียงใหม่ และโพนพิสัย) จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอบุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา และบึงโขงหลง) จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม และศรีสงคราม) จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ คอนสาร หนองบัวแดง และเทพสถิต) จังหวัดมหาสารคาม (อำเภอเชียงยืน และโกสุมพิสัย) จังหวัดร้อยเอ็ด (อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ธวัชบุรี โพนทอง และเสลภูมิ)
3. ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง และนิคมพัฒนา) จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี มะขาม ขลุง และโป่งน้ำร้อน) จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง และบ่อไร่)
4. ภาคตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี(อำเภอเมืองกาญจนบุรี สังขละบุรี ทองผาภูมิ ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค และด่านมะขามเตี้ย) จังหวัดราชบุรี(อำเภอสวนผึ้ง และบ้านคา) จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน หนองหญ้าปล้อง ท่ายาง และชะอำ) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์(อำเภอหัวหิน ปราณบุรี ทับสะแก และบางสะพาน)
5. ภาคใต้จังหวัดชุมพร (อำเภอท่าแซะ สวี พะโต๊ะ และหลังสวน) จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ)
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน
2. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
3. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สทนช. เตือน 23-31 พ.ค.นี้ น้ำทะเลหนุนสูง