วอนนายกฯ ไฟเขียวนำเข้ากากถั่วเหลือง
• มือมืดตีกันไม่อนุมัติเรือขนกากถั่วเหลืองขึ้นฝั่ง
• เอกชนโวยต้นทุนพุ่งกำไรหดแถมหมูเถื่อนตีซ้ำ
• ชงเข้า ครม.วันนี้ บรรเทาผลกระทบด่วนที่สุด
17 สมาคมปศุสัตว์-สัตว์น้ำ วอนนายกฯ ประกาศนำเข้า “กากถั่วเหลือง” ทันที แก้วิกฤติอาหารสัตว์แพง ยันเรือลอยลำจ่ออยู่ที่ปากอ่าว สุดมึน!! ไม่มีใครรู้เรื่อง
สมาพันธ์ปศุสัตว์ฯ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอรัฐบาลเร่งออกประกาศนำเข้า “กากถั่วเหลือง” ก่อนเกิดความเสียหายหนัก เพิ่มต้นทุนการผลิต และกระทบห่วงโซ่ผลิตอาหารทั้ง ด้านเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง-ปลา ร่วมยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ หลายจังหวัด ตอกย้ำความเดือดร้อน หากวัตถุดิบอาหารกุ้งขาดแคลน
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล เลขาธิการสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กล่าวว่า สมาพันธ์ฯ ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นหนังสือฉบับที่ 6 ที่ยื่นถึงรัฐบาลในประเด็นนี้ เพื่อขอเข้าพบอธิบายเหตุผลและความจำเป็น ตลอดจนขอร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการออกประกาศนำเข้ากากถั่วเหลืองทันที ก่อนจะเกิดความเสียหายหนัก
“ผลผลิตถั่วเหลืองของประเทศไทย มีเพียงปีละ 20,000-30,000 ตัน ซึ่งได้รับการปกป้องเกษตรกร โดยสมาพันธ์ฯ รับซื้อหมดทั้ง 100% แล้ว รวมถึงการรับซื้อจากโรงงานผลิตน้ำมันพืชด้วย จึงมองไม่เห็นเหตุผลที่รัฐบาลจะดึงการต่ออายุประกาศนำเข้ากากถั่วเหลืองให้ล่าช้ากว่าทุกปี ซึ่งส่งผลเสียอย่างมาก อยากวอนขอให้รัฐบาลนำวาระนี้เข้า ครม.ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการประชุม ครม.ครั้งสุดท้ายของปี พร้อมขอให้มีมติต่ออายุทันที เพื่อจำกัดความเสียหาย ขณะที่จะต้องมีกระบวนการออกประกาศยกเว้นอากรของกระทรวงการคลังตามมาอีกขั้นตอนหนึ่งอย่างรวดเร็ว” นายพรศิลป์กล่าว
พร้อมระบุว่า การขอให้รัฐบาลเร่งรัดออกประกาศดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน เพื่อจำกัดความสูญเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงการสูญเสียโอกาสในการผลิตอาหารสัตว์ เพราะหากต้องหยุดชะงักเนื่องจากไม่มีวัตถุดิบในการผลิต จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังผู้บริโภคเนื้อสัตว์ภายในประเทศ และกระทบต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าเนื้อไก่ และกุ้ง ซึ่งมีมูลค่าทางธุรกิจทั้งระบบรวมกันกว่า 1 ล้านล้านบาท และหากล่าช้าจนเกิดความเสียหาย สมาพันธ์ฯ จะส่งใบเรียกเก็บค่าเสียหายไปยังรัฐบาล
นายสมภพ เอื้อทรงธรรม เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 3 ม.ค.67 จะมีเรือขนถ่ายสินค้ากากถั่วเหลืองเข้าสู่ประเทศไทยเป็นลำแรก และตลอดเดือนม.ค.67 จะมีเรือนำเข้ากากถั่วเหลือง 4 ลำ รวมปริมาณ 210,000 ตัน หากประกาศนำเข้ากากถั่วเหลืองออกไม่ทัน จะมีความเสียหายเกิดขึ้น ได้แก่
1. เรือที่ขนถ่ายสินค้ากากถั่วเหลืองที่จะเข้ามาไทย จะไม่สามารถขนถ่ายสินค้าได้ และมีค่าใช้จ่าย (Demurrage Charge) วันละ 250,000 บาท/ลำเรือ และเดือน มค. มีเรือเข้ามาพร้อมกัน 4 ลำ จะมีค่าใช้จ่ายรวม 1 ล้านบาท/วัน นับไปทุกวันจนกว่ารัฐบาลจะออกประกาศ
2. ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของอัตราดอกเบี้ยสูญเปล่า กรณีประกาศลดหย่อนอัตราภาษีของกระทรวงการ คลังออกล่าช้า กรณี ม.ค.67 มีรายการเข้ามาจำนวน 210,000 ตัน มูลค่านำเข้าประมาณ 4,200 ล้านบาท มูลค่าภาษีที่ต้องสำรองจ่ายจะสูงถึง 336 ล้านบาท และมีอัตราดอกเบี้ยสูญเปล่า 1.68 ล้านบาท/เดือน ระยะเวลาขอคืนภาษี 6 เดือน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยสูญเปล่าในเดือน ม.ค.รวม 10.08 ล้านบาท
ด้านนายคึกฤทธิ์ อารีปกรณ์ ผู้จัดการสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่ากระบวนการผลิตไก่เพื่อส่งออก มีต้นน้ำในด้านการนำวัตถุดิบเข้ามาผลิตอาหารสัตว์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะ “กากถั่วเหลือง” ต้องนำเข้าปีละ 3 ล้านตัน และเป็นเรื่องปกติที่ต้องต่ออายุทุกๆ 3 ปี โดยประกาศนำเข้ากากถั่วเหลือง ปี 2564-2566 กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาโดยที่ประชุม ครม. ก่อนเข้าสู่กระบวนการอื่นๆ ต่อไป
“ไม่เข้าใจว่า เหตุใดปีนี้กลับเกิดความล่าช้าขึ้นมาก ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และกระทบขีดความ สามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมไก่ไทยในตลาดโลก มูลค่าการส่งออกราว 1.5 แสนล้านบาทที่ตั้งเป้าไว้ น่าจะเป็นไปได้ยาก” นายคึกฤทธิ์ กล่าว
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ระบุว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูได้รับความเดือดร้อนจากหมูเถื่อนมาหลายปี รวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมาโดยตลอด ขณะที่ตอนนี้ยังต้องกังวลกับสถานการณ์การนำเข้ากากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอาหารสัตว์ ที่เกิดความล่าช้าจากการออกประกาศนำเข้า และจะกลายเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต ซ้ำเติมความเดือดร้อนของคนเลี้ยงหมูอีกด้าน
“อยากขอให้รัฐบาลนำวาระการต่ออายุประกาศ เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันนี้ (26 ธ.ค.) ทันที เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นตามมาอีกมหาศาล” นายสิทธิพันธ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน วันนี้สมาพันธ์การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย โดยนายบรรจง นิสภวาณิชย์ ประธานสมาพันธ์ฯ ยังนำคณะเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำหลายสมาคม เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการประกาศนำเข้ากากถั่วเหลืองโดยด่วน รวมถึงตัวแทนเกษตรกรฯ ผู้เลี้ยงกุ้งและปลาในจังหวัดต่างๆ ก็เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องในประเด็นนี้เช่นกัน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดด้วย เช่น สุราษฎร์ธานี ตรัง กระบี่ จันทบุรี ระยอง ตราด ฉะเชิงเทรา เป็นต้น
นายบรรจง กล่าวว่า กุ้งไทยต้องใช้กากถั่วเหลืองในการผลิตอาหารกุ้ง ความล่าช้าจากภาครัฐในการต่ออายุนำเข้าเช่นนี้ ย่อมกระทบถึงต้นทุนการผลิตกุ้งไทยที่สูงอยู่แล้วให้สูงขึ้นไปอีก ซ้ำเติมพี่น้องเกษตรกร เพราะจะเกิดภาวะขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์น้ำ ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งออกประกาศดังกล่าว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้นกับภาคปศุสัตว์และสัตว์น้ำทั้งหมดของประเทศไทยจนยากที่จะเยียวยา
นายอนุชา เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวด้วยว่า การขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์ จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น สินค้าปลายน้ำมีราคาสูงขึ้นตาม ส่งผลให้กุ้งไทยไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลก กระทบการสร้างรายได้เข้าประเทศนับแสนล้านบาทอย่างเลี่ยงไม่ได้