สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 ธ.ค. 66
สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง
คาดการณ์ : ในช่วงวันที่ 20–24 ธ.ค. 66 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 18 ธ.ค. 66 62,637 ล้าน ลบ.ม. (76%) น้อยกว่า ปี 65 จำนวน 4,201 ล้าน ลบ.ม. และมีปริมาณน้ำใช้การ 38,428 ล้าน ลบ.ม. (66%)
การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำ
เฝ้าระวังน้ำน้อย 3 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ ภาคกลาง : กระเสียว ภาคตะวันออก : คลองสียัด ต้องเฝ้าระวังในช่วงฤดูแล้ง
ติดตามอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ปริมาณน้ำ > 100% ภาคใต้ 6 แห่ง : คลองหยา คลองแห้ง ห้วยน้ำใส คลองกระทูน คลองดินแดง คลองหัวช้าง
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลประสบผลสำเร็จในการสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดปริมาณน้ำต้นทุนเพียงพอกับความต้องการในทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และอุตสาหกรรม แม้ในช่วงที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในพื้นที่รับน้ำของอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี อันเนื่องมาจากสภาวะเอลนีโญ แต่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้โครงข่ายน้ำภาคตะวันออกในการสูบผันน้ำ โดยเฉพาะ
การสูบผันน้ำจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก ผ่านทางคลองพระองค์ไชยานุชิตไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี ควบคู่ไปกับการลงพื้นที่สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนและการวางแผนบริหารจัดการน้ำล่วงหน้า 2 ปี ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับพื้นที่ EEC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประกาศ สทนช. ฉบับที่ 7/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 18-26 ธ.ค. 66 ดังนี้
1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา พระพรหม ปากพนัง ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร) จ.พัทลุง (อ.เมืองพัทลุง และควนขนุน) จ.สงขลา (อ.เมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด สทิงพระ สิงหนคร ควนเนียง หาดใหญ่ บางกล่ำ นาหม่อม จะนะ และเทพา) จ.ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง ทุ่งยางแดง กะพ้อ สายบุรี และหนองจิก) จ.ยะลา (อ.เมืองยะลา บันนังสตา และรามัน) จ.นราธิวาส (อ.เมืองนราธิวาส เจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ แว้ง จะแนะ สุคิริน สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี)
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะเขื่อนบางลางจ.ยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองท่าแนะ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถจัดสรรน้ำได้มีจำนวน 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้น 32,251 ล้าน ลบ.ม. (68%) มีแผนการจัดสรรน้ำ 15,810 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการจัดสรรน้ำแล้ว 2,973 ล้าน ลบ.ม. (19%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติ