สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ธ.ค. 66
สภาพอากาศวันนี้ :ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนบางแห่งกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : วันที่ 3-4 ธ.ค. 66 ประเทศไทยตอนบนมีฝนบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 1.ธ.ค. 66 น้อยกว่า ปี 65 จำนวน 4,061 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 63,767 ล้าน ลบ.ม. (77%)
ปริมาณน้ำใช้การ 39,564 ล้าน ลบ.ม. (68%)
การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำขนาดใหญ่
ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 8 แห่ง ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดนและบึงบอระเพ็ด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์ ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุด 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคกลาง : กระเสียว ภาคตะวันออก : คลองสียัด
โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ 3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่
สถานการณ์อุทกภัย
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 จังหวัด (นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา) รวม 14 อำเภอ 79 ตำบล 541 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 40,894 ครัวเรือน ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
สทนช.ประกาศ ฉบับที่ 6/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ธ.ค. 66 ดังนี้
1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.ทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย) จ.ชุมพร (อ.สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และพะโต๊ะ) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พุนพิน เคียนซา พระแสง และดอนสัก) จ.ตรัง (อ.เมืองตรัง ห้วยยอด และวังวิเศษ) จ.พัทลุง (อ.เมืองพัทลุง และควนขนุน) จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา พระพรหม ปากพนัง ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร) จ.สงขลา (อ.เมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด สทิงพระ สิงหนคร ควนเนียง หาดใหญ่ นาหม่อม และบางกล่ำ) จ.ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง สายบุรี และหนองจิก) จ.ยะลา (อ.เมืองยะลา เบตง และรามัน) จ.นราธิวาส (อ.เมืองนราธิวาส เจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ จะแนะ สุคิริน สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี)
2.เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก และเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองบางสะพาน คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำตรัง แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 66 นายธรรมพงศ์ เนาวบุตร รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสภาพปัญหาน้ำท่วม ณ คลองปกาสัย ถนนเพชรเกษม และคลองกระบี่ใหญ่ จ.กระบี่ ด้วยประชาชนในพื้นที่ ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ มักประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในฤดูน้ำหลาก เนื่องจากคลองปกาสัย
มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมในพื้นที่สำคัญต่างๆ รวมถึงเกิดการกัดเซาะตลิ่ง ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลปกาสัยอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจัดทำแผนงานโครงการสำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในส่วนคลองกระบี่ใหญ่มีปริมาณน้ำไหลผ่านจำนวนมาก รวมถึงได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูงไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ทำให้พื้นที่ชุมชนเทศบาลเมืองกระบี่ ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง ปัจจุบัน สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่อไป