BAM มั่นใจสิ้นปีขายเอ็นพีเอได้ตามเป้าหมาย
BAM ลุยเต็มที่โค้งสุดท้ายของปีนี้ ตั้งเป้าขายเอ็นพีเออีก 5 พันล้านบาทตามเป้าหมายตลอดทั้งปี 17,800 ล้านบาท ส่วนปีหน้า BAM ครอบรอบ 25 จัดหนักอย่างแน่นอน
นายรฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) กล่าวว่า บริษัทยังคงเร่งเครื่องในส่วนของผลเรียกเก็บหนี้รวมช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ เพื่อให้ผลเรียกเก็บเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 17,800 ล้านบาท หลังจาก 9 เดือนที่ผ่านมาทำได้ 11,200 ล้านบาท โดยยอมรับว่าในไตรมาส 3/66 บริษัทเผชิญกับความท้าทายในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ที่อ่อนแอลงค่อนข้างมากจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ทำให้ยอดเรียกเก็บหนี้จากลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้รายได้ (เอ็นพีแอล) ชะลอลง
ขณะที่ การขายสินทรัพย์รอการขาย หรือเอ็นพีเอ ในช่วงไตรมาส 3/66 ก็ชะลอลงไปมากเช่นกัน เนื่องจากลูกค้าที่มีความสนใจซื้อทรัพย์เอ็นพีเอ จาก BAM ได้เลื่อนหรือชะลอการซื้อออกไปจากสภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น และความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร กระทบต่อภาพรวมของผลเรียกเก็บรวมในไตรมาส 3/66 และสวนทางช่วงปกติที่ไตรมาส 3 ของทุกปีจะเป็นช่วงที่มีผลเรียกเก็บสูงที่สุดของปี ดังนั้น ในไตรมาส 4/66 บริษัทจะเร่งเพิ่มยอดเรียกเก็บให้ได้ 5,380 ล้านบาทเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ส่วนทิศทางการเรียกเก็บหนี้รวมในปี2567 ยังมองว่าเป้าหมายจะทำได้ใกล้เคียงกับปีนี้ เพราะเมื่อมองดูภาวะในปัจจุบันที่ความสามารถในการชำระหนี้ยังไม่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้นมากนัก ประกอบกับ ความผันผวนของเศรษฐกิจที่ทำให้กำลังซื้ออ่อนตัว และภาวะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ยังมีแรงกดดันทั้งในส่วนการเรียกเก็บหนี้เอ็นพีแอล และการขายทรัพย์เอ็นพีเอที่ยังมีความท้าทาย
“BAM ยังมุ่งมั่นและทำเต็มที่ในปีหน้า ที่จะครบรอบ 25 ปีของ BAM ซึ่งเราจะมีการให้สิทธิพิเศษเฉพาะลูกหนี้ในแต่ละรายที่จะช่วยเร่งผลเรียกเก็บได้มากขึ้น รวมถึงการขายเอ็นพีเอ เน้นการทำตลาด และกลยุทธ์ ด้านราคาต่อเนื่อง” นายรฐนนท์ กล่าว
นางสาววนัฌชา ศรีโพธิ์ทองนาค นักลงทุนสัมพันธ์ BAM กล่าวว่าในปี2567 คาดว่าจะใช้งบลงทุนในการซื้อ หนี้เอ็นพีแอล และทรัพย์เอ็นพีเอเข้ามา 10,000 ล้านบาทขึ้นไป จากการที่เห็นสัญญาณของสถาบันการเงินต่างๆได้มีการเริ่มออกมาเสนอขายหนี้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/2566 นี้ที่จะมีการเปิดประมูลหนี้ออกมาเป็นจำนวนมาก และเห็นการเปิดประมูลขายหนี้ในจำนวนมากต่อเนื่องในปี2567 หลังจากที่ 9 เดือนที่ผ่านมา BAM ได้เข้าซื้อมูลหนี้ไปแล้วรวม 42,100 ล้านบาท จากมูลหนี้ของตลาดที่ออกมาเสนอขายในช่วง 9 เดือนที่ 69,500 ล้านบาท โดยที่ใช้เงินลงทุนไปราว 12,000 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะใช้เงินลงทุนซื้อหนี้ไม่เกิน 15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับต่อการทำธุรกิจในปีหน้า