สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 พ.ย. 66
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศไทย ในวันที่ 14 พ.ย. 66 โดยอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบนลดลงต่ำกว่า 23°C ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นในหลายพื้นที่ และทิศทางลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูง 100–3,500 ม.เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงตั้งแต่ 5,000 ม. ขึ้นไป เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตก
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศไทย ในวันที่ 14 พ.ย. 66 โดยอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบนลดลงต่ำกว่า 23°C ซึ่งอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็นในหลายพื้นที่ และทิศทางลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูง 100–3,500 ม.เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงตั้งแต่ 5,000 ม. ขึ้นไป เปลี่ยนเป็นลมฝ่ายตะวันตก
สภาพอากาศวันนี้ : ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : วันที่ 16–19 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 14 พ.ย. 66 น้อยกว่าปี 2565 จำนวน 3,781 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 64,157 ล้าน ลบ.ม. (78%)
ปริมาณน้ำใช้การ 39,987 ล้าน ลบ.ม. (69%)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่
ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 11 แห่ง ภาคเหนือ : กิ่วลม แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดนและบึงบอระเพ็ด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์ ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล และหนองปลาไหล
ระดับน้ำเกินระดับควบคุมต่ำสุด 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคกลาง : กระเสียว ภาคตะวันออก : คลองสียัด
โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ 3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่
ประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2566
ลงวันที่ 12 พ.ย. 66 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 14 – 18 พฤศจิกายน 2566 ดังนี้
1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% บริเวณ จ.ระนอง และสุราษฎร์ธานี และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ
สทนช. เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำ
ประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ครั้งที่ 4/2566 โดยที่ประชุมพิจารณา 1) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 2,493 โครงการ และ 2) พิจารณาจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบบริเวณพื้นที่เสี่ยงในเขตชุมชนเมืองสงขลา ซึ่งเกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนปี 2566
• ประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำสะแกกรัง ครั้งที่ 5/2566 โดยที่ประชุมพิจารณา 1.การประเมินผลการดำเนินงานคณะกรรมการลุ่มน้ำ 2. โครงการทบทวนแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและแผนป้องกันและแก้ใขภาวะน้ำท่วมลุ่มน้ำสะแกกรัง 3. โครงการศึกษาปรับปรุงร่างแผนแม่บทการบริหารจัตการทรัพยากรน้ำ ในเขตลุ่มน้ำสะแกกรัง 4. (ร่าง) แผนขับคลื่อนน้ำสะอาด เพื่อการอุปโภค-บริโภค และ 5. การจัดลำดับความสำคัญและกลั่นกรองแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของลุ่มน้ำสะแกกรัง
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคใต้ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา